พัฒนาการของระบบการบรรทุกขนส่งดีขึ้นมาก แต่โอกาสผิดพลาดจากพนักงานเติมน้ำมันที่หยิบหัวจ่ายผิด และอาจจะรวมทั้งสาเหตุจากการสื่อสารระหว่างเจ้าของรถกับผู้ให้บริการไม่ชัดเจนยังมีอยู่ โอกาสที่รถยนต์จะได้รับน้ำมันผิดมาตรฐาน มีหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น การผสมโดยพนักงานขับรถบรรทุกขนส่งน้ำมัน ขนถ่ายน้ำมันผิดชนิดเข้าไปในถังใต้ดิน หรือการแอบถ่ายน้ำมันออกไปขาย ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาแทบไม่ปรากฏให้เห็นในช่วงยุคหลังๆ นี้เพราะพัฒนาการของระบบการบรรทุกขนส่งดีขึ้นมาก แต่โอกาสผิดพลาดจากพนักงานเติมน้ำมันที่หยิบหัวจ่ายผิด และอาจจะรวมทั้งสาเหตุจากการสื่อสารระหว่างเจ้าของรถกับผู้ให้บริการไม่ชัดเจนยังมีอยู่ สำหรับท่านเจ้าของรถ ควรตระหนักว่าเด็กที่ปฏิบัติหน้าที่เติมน้ำมัน อาจจะไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยมีรถยนต์เหมือนกับท่านทั้งหลาย ดังนั้นระดับความเข้าใจหรือประสบการณ์กับรถยนต์ย่อมน่าจะน้อยกว่าเจ้าของรถยนต์
การขับรถยนต์ราคาหลักล้านเข้าไปในสถานีน้ำมันแล้วเพียงพูดกับเด็กว่าน้องเต็มถังแล้วนั่งรออยู่ในรถ เป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงกับการเกิดเติมน้ำมันผิดได้ ผมแนะนำว่าขอให้ก้าวลงจากรถยนต์แล้วออกคำสั่งการสั่งซื้อ ถ้าเติมเบนซินก็ให้สังเกตสีเหลือง เติมดีเซลก็สังเกตสีน้ำเงินหรือเทาการลงจากรถยนต์เพื่อมายืนดูเด็กเติมน้ำมันนั้นมีข้อดีหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การเห็นได้แน่ชัดว่าเด็กไม่หยิบหัวจ่ายผิดประเภทชนิดน้ำมัน หากโชคร้ายสุดๆ เผอิญว่าเกิดอุบัติเหตุในสถานีบริการน้ำมันก็จะช่วยลดความสูญเสียด้านร่างกายและชีวิตลงได้กรณีที่มีผู้โดยสารมาหลายคนผมแนะนำว่าให้ผู้โดยสารลงจากรถไปนั่งพักที่ศาลาหรือในร้านสะดวกซื้อ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน คนจำนวนมากทำให้ยากที่จะได้รับความช่วยเหลือทันการ การมีคนอยู่ในรถหลายคน โทรศัพท์มือถือของผู้โดยสาร อาจจะมีการเรียกเข้า เป็นสาเหตุทำให้ เกิดเพลิงลุกไหม้ได้ นอกจากนี้การสร้างยอดขายคือเป้าหมายหลักของพนักงานในสถานีบริการน้ำมัน เรามักจะพบเห็นบ่อยๆ มีความพยายามเติมน้ำมันให้แน่นถัง โดยการเขย่ารถ เพื่อจะยัดเยียดน้ำมันเข้าไปในถังของรถยนต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรปฏิบัติ สิ่งที่ถูกต้องคือควรเติมแค่ระดับที่สัญญาณจับระดับของหัวจ่ายตัด (Nozzle) ปัดเศษอีกไม่เกินสิบบาทให้ลงตัวก็พอเพียงแล้ว การพยายามเติมจนเต็มล้นยันคอหอยผู้ที่ได้ประโยชน์คือสถานีบริการน้ำมัน ผู้ที่ได้รับโทษอาจจะเป็นเจ้าของรถยนต์
ส่วนการขับรถในสถานีบริการน้ำมัน ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ เราต้องไม่ลืมว่าข้อจำกัดประการหนึ่งของสถานีบริการน้ำมันคือประตูทางเข้าและประตูทางออก ต้องเข้าคิวออกและประตูทางออกก็มีเพียงทางเดียว การใช้บริการอย่างปลอดภัย พยายามหลีกเลี่ยงการถอยหลังในสถานีบริการเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ขอแนะนำเทคนิคหลักๆ ว่าให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน กดแตรหนึ่งครั้ง ถอยช้าความเร็วต้องไม่เกิน 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะรถเคลื่อนถอยให้ตรวจสอบพื้นที่ด้านหลังด้วยกระจกส่องข้าง กระจกส่องหลัง หลีกเลี่ยงการถอยยาวๆ ควรถอยสั้นๆ หลายๆ ครั้งจนกว่าจะมีรัศมีพ้นอุปสรรค การขับเคลื่อนรถออกจากสถานีบริการด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะช่วยให้ระยะเบรกหยุดสั้น ไม่เกิน 2 เมตรซึ่งเพียงพอสำหรับการหยุดกะทันหัน เมื่อจะเข้าสู่ทางร่วมให้มองรถด้านขวา มองทิศทางข้างหน้าที่จะเคลื่อนรถไป มองด้านซ้ายเผื่อป้องกันรถตระกูลมุดแทรกด้านข้าง มองขวาอีกครั้งเมื่อมั่นใจก็เร่งเครื่องเคลื่อนรถออกไป ผมขอแนะนำว่าระดับความปลอดภัยเราสามารถกำหนดได้ด้วยเทคนิคง่ายๆ ก่อนออกเดินทางให้นำรถไปเติมน้ำมันเก็บไว้ให้เต็มถัง จะได้ไม่ต้องแวะเข้าไปสู่พื้นที่อันตรายในช่วงจราจรแออัด โดยเฉพาะช่วงเทศกาล และสำหรับระยะเวลาของการขับ แนะนำว่ากรณีพักผ่อนนอนหลับได้เต็มที่ควรจอดพักทุกๆ 4 ชั่วโมง พักประมาณ 30 นาทีหากพักผ่อนไม่ค่อยจะเพียงพอ หลับๆ ฝันๆ เป็นแบบนี้ก็ควรจะจอดพักทุกๆ 2 ชั่วโมง