ภัยก่อการร้าย..กรรมของคนใช้รถ

เครดิตข้อมูล : auto.sanook.com

    ภัยก่อการร้ายนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดและเราเองก็คงไม่มีใครอยากเข้าไปข้องแวะถึงความอันตรายที่อาจเกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินเรา แม้เราจะพยายามหลีกเลี่ยงแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้โดยเฉพาะสถานการณ์ที่อึมครึมกับการวางระเบิดรายวันนั้น ทำให้ภัยก่อการร้ายกลายเป็นภัยใกล้ตัวมาทันใด
    เมื่อเกิดเหตุร้ายแน่นอนว่าไม่ว่าจะความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นกับรถ เราทุกคนคงต้องนึกถึงบริษัทประกันภัยที่เขาช่วยคุณคุ้มครองดูแลรถสุดที่รักอยู่ โดยเฉพาะประกันประเภทที่หนึ่งที่รวมแทบทุกเหตุนั้น ถ้าคุณเจอเรื่องร้ายมาก็คงต้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้ทำข้อสัญญาไป
    จริงอยู่ที่ประกันภัยอาจจะช่วยท่านได้ถึงเหตุร้ายแต่ถ้ารถของท่านได้รับความเสียหายจากภัยที่เกิดจากเหตุก่อการร้ายไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม คุณกำลังจะมีงานเข้ามาเยือนโดยที่ไม่ต้องรอการพิสูจน์
    ตามหลักของการประกันภัยรถยนต์แล้ว ความรับผิดชอบของบริษัทประกันนั้นจะรับผิดชอบอยู่ใน 2 กรณี คือ ทรัพย์สินและบุคคล ซึ่งแบ่งไปตามประเภทที่คุณทำประกันภัยว่า ประเภทที่ 1 รับผิดชอบทั้งตัวเองและคู่กรณี ส่วนในประเภทที่ 3 นั้นรับผิดเฉพาะของคู่กรณี ในขณะที่รถหายและไฟไหมนั้น จัดเป็นกรณีพิเศษตามแต่จะเลือกทำหรือต้องการครอบคลุม
    จากข้างต้นจะเห็นได้ว่าไม่มีบทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับภัยก่อการร้าย ซึ่งหมายความว่ารถของคุณนั้นหากได้รับความเสียหายจากภัยก่อการร้ายก็อาจจะไม่ได้รับสินไหมทดแทน และนี่ก็ตรงจากเอกสารแนบท้ายของคู่มือประกันภัยในหัวข้อรย.30 ที่ระบุว่า
    “การก่อการร้ายหมายความรวมถึงการกระทำ ซึ่งใช้กำลังหรือความรุนแรง และ/หรือมีการข่มขู่โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นการกระทำเพียงลำพัง การกระทำการแทน หรือที่เกี่ยวเนื่องกับองค์กรใด หรือรัฐบาลใด ซึ่งกระทำเพื่อผลทางการเมือง ศาสนา ลัทธินิยม หรือจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งเพื่อต้องการส่งผลให้รัฐบาล และหรือสาธารณชนหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสาธารณชนตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก หวาดกลัว
    ข้อยกเว้นนี้ไม่คุ้มครองความสูญเสีย ความเสียหาย ค่าใช้จ่าย ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุโดยตรงหรือโดยอ้อมเป็นผลมาจากหรือมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับการกระทำใดๆ ที่ต้องกระทำขึ้นเพื่อควบคุม ป้องกัน หยุดยั้ง ไม่ว่าจะรูปแบบใด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกระทำก่อการร้าย”
    นั่นหมายความว่าหากรถของคุณได้รับความเสียหายจากภัยก่อการร้ายก็จะไม่ได้รับการชดเชยค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย แม้จะมีการเขียนเบี้ยความคุ้มครองในเรื่องการก่อการร้ายในกรมธรรม์แต่กรณีนี้เป็นเรื่องยกเว้นที่หลายคนไม่ทราบ

ทั้งนี้หากรถคุณเจอภัยก่อการร้ายเข้าอย่างจัง และไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากประกันภัยได้ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
    1. ประเมินค่าเสียหายเบื้องต้น .. เมื่อพบว่ารถได้รับความเสียหายควรจะประเมินมูลค่าก่อนว่าเสียหายไปมากน้อยเพียงใด หากไม่มากก็ควรซ่อมใช้ดีกว่า
    2.ตัดสินใจ คิดให้ดีว่าจะซ่อมใช้หรือ ถ้าไม่คุ้มเราแนะนำให้ขายซาก ซึ่งมีคนจำนวนมากรับซื้อและนำเงินที่ได้ไปกลบกับค่าเบี้ยผ่อนรถกรณีที่ยังไม่หมด หรือ ไปออกรถใหม่มาขับจะดีกว่า
    3. ยกเลิกกรมธรรม์ กรณีที่รถเสียหายมากไม่สามารถใช้งานต่อได้ อย่านิ่งเฉย ให้รีบทำการยกเลิกรมธรรม์ ทันที โดยใช้วิธีส่งจดหมายระบุเป็นลายลักษณ์อักษรถึงบริษัทประกัน หรือเข้าไปติดต่อที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งเราจะได้รับเบี้ยคืนตามที่ประกันภัยระบุ
    เมื่อรู้ดังนี้แล้วภัยก่อการร้ายก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ทางที่ดีอย่าเข้าไปยังจุดเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยงภัย เนื่องจากน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ที่จะปลอดภัยต่อทรัพย์สินของท่าน