ผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบันดูเหมือนจะต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นว่าหลายคนใช้รถยนต์เป็นบ้านหลังที่สอง พร้อมรองรับกิจกรรมนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร คุยโทรศัพท์ หรือแต่งหน้าทำผม
    ด้วยเหตุนี้ รถยนต์ของแต่ละคนจึงสะท้อนบุคลิกของเจ้าของได้อย่างแจ่มชัด ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักความสะอาดและชอบจัดของอย่างเป็นระเบียบ นิยมไลฟสไตล์แบบ “มินิมอล” ด้วยของใช้เพียงไม่กี่ชิ้น หรือว่าคุณเป็นคนที่ชอบขนสัมภาระมากมายไปไหนมาไหนด้วยแบบ “จัดเต็ม” แถมยังไม่เคยทิ้งของชิ้นไหนเลยแม้แต่เศษขยะในรถ!
    การจัดเก็บสิ่งของต่างๆ แบบไม่เป็นที่เป็นทางอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนได้ง่ายๆ อย่างเช่นกระป๋องเครื่องดื่มและขวดพลาสติกที่วางอยู่บนพื้นอาจกลิ้งไปอยู่ใต้เบรกหรือคันเร่ง ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถไม่ได้และทำให้เกิดอุบัติเหตุในที่สุด หรือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ อย่างอื่นในรถก็อาจกลายเป็นจรวดมิสไซล์ที่พุ่งเข้าโจมตีคุณได้ทันทีเวลาที่คุณเบรกรถฉุกเฉิน
    บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยรถยนต์ในประเทศอังกฤษผู้จัดทำเวปไซต์ Confused.com เปิดเผยผลสำรวจที่จัดทำขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2554 พบว่า 1 ใน 5 ของผู้ขับขี่ในอังกฤษประสบอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากสิ่งของรกๆ ภายในรถ
    แม้ว่าผลสำรวจจะชี้ให้เห็นถึงภัยใกล้ตัวที่เราหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ แต่ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ก็ยังคงคุ้นเคยกับการพกพาสัมภาระมากมายติดตัวเมื่อก้าวขึ้นรถ โดยผลสำรวจของเจดี พาวเวอร์ เปิดเผยว่า สิ่งของที่คนนิยมถือขึ้นรถเป็นลำดับต้นๆ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ปากกา/ดินสอ แว่นตา กระเป๋าสตางค์ ทิชชู่ และเศษเหรียญ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่เพศหญิงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ยังนำกระเป๋าถือติดตัวขึ้นรถไปด้วยเสมอ
    ดังนั้น ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จึงมักจะบ่นว่าช่องเก็บของด้านหน้าคอนโซลนั้นมีขนาดไม่ใหญ่พอสำหรับเก็บกระถือให้เรียบร้อย และรถส่วนใหญ่ยังไม่มีช่องเก็บของที่เหมาะสำหรับของกระจุกกระจุกที่จำเป็นต้องใช้

ห้องโดยสารที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
    เพื่อช่วยผู้ขับขี่ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุอันเกิดจากสิ่งของต่างๆ ในรถ ผู้ผลิตรถยนต์จึงคิดค้นตัวช่วยมากมายเพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการเดินทาง อย่างเช่นในรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์สำหรับผู้ขับขี่ในเมือง เช่นฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ที่ออกแบบให้มีช่องเก็บของต่างๆ ในรถมากถึง 20 แห่ง พร้อมรองรับสิ่งของทุกชิ้นที่ผู้ขับขี่ถือขึ้นมาด้วย
    นักออกแบบและวิศวกรของฟอร์ดต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้พื้นที่ทุกมิลลิเมตรภายในรถอย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อสร้างสรรค์ช่องเก็บของที่ชาญฉลาดและตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ขับขี่ได้แบบเหนือความคาดหมาย เช่น ที่วางแก้วบริเวณคอนโซลหน้ารถสำหรับ 2 แก้ว ที่เก็บแว่นกันแดดบริเวณเหนือศีรษะ ช่องเสียบยูเอสบีสำหรับฟังเพลง และที่วางโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณหน้าเกียร์พร้อมชาร์จไฟแบบ 12 โวลต์ไปด้วยในตัว
    นอกจากนี้ ใต้ที่นั่งของผู้โดยสารด้านหน้ายังมีกล่องเก็บของที่ใหญ่พอสำหรับวางกระเป๋าถือหรือคอมพิวเตอร์แบบพกพา หรือสาวๆ บางคนอาจใช้เป็นที่เก็บรองเท้าสำรองก็ได้ บนที่บังแดดฝั่งคนขับติดตั้งสายรัดบัตรจอดรถหรือใช้เป็นที่เก็บใบเสร็จค่าทางด่วนให้เรียบร้อยไม่สูญหาย
    ขณะที่ช่องเก็บของส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาให้สะดวกต่อการใช้งานของผู้ขับขี่ แต่ทีมงานของฟอร์ดก็ไม่ลืมสร้างสรรค์ช่องเก็บของกระจุกกระจิกอื่นๆ ให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางไปกับรถฟอร์ด เอคโอคสปอร์ต เช่นกัน
    “เอคโคสปอร์ต ใหม่ ไม่ใช่รถแข่ง จึงไม่จำเป็นที่ทุกอย่างจะต้องวางอยู่รอบๆ คนขับเพียงคนเดียว” มร. เอดิโอะ ยามาอูติ วิศวกรด้านการใช้งานอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ประจำฝ่ายปฏิบัติการ ฟอร์ด อเมริกาใต้ กล่าว “รถเอสยูวีคันนี้เหมาะสำหรับการขับไปเที่ยวนอกเมืองกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงคุณจึงต้องการพื้นที่เก็บของสำหรับทุกคน”
    นอกจากที่วางแก้วน้ำ 2 แก้วด้านหน้าแล้ว บริเวณประตูรถด้านหน้ายังพร้อมรองรับขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร หรือ 600 มิลลิลิตร ส่วนประตูด้านหลังรองรับขวดน้ำขนาด 600 มิลลิลิตรได้เช่นกัน ช่องเก็บของที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังเบาะคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าเหมาะสำหรับเก็บแผนที่หรือใช้เป็นกระเป๋าใส่ขนม และหากคุณต้องการแวะพักยาวๆ หรือเดินทางไปปิกนิก กล่องเก็บของตรงกลางรถยังช่วยรักษาความเย็นของเครื่องดื่มได้ถึง 6 กระป๋อง คุณจึงมีความสุขกับเครื่องดื่มที่เย็นสดชื่นระหว่างเดินทางได้สบายๆ
    ผู้โดยสารด้านหลังยังมีช่องเก็บของพิเศษโดยเฉพาะ ออกแบบเหมือนกล่องเล็กๆ อยู่ข้างเบาะ ซึ่งมร. ยามาอูติ กล่าวว่า ช่องเก็บของนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ
    “เวลาผมไปไหนมาไหนกับลูกๆ พวกเขามักจะอยากได้ของเล่นติดตัวไปด้วยเสมอ” มร. ยามาอูติ ซึ่งเป็นคุณพ่อลูกสอง กล่าว “สิ่งที่แรกที่ผมทำก็คือ เอาของเล่นจากลูกมาเก็บไว้ก่อนที่เด็กๆ จะทำหล่นหายตอนผมจับพวกเขานั่งในเบาะสำหรับเด็กและคาดเข็มขัดนิรภัย กล่องเก็บของข้างเบาะนี้เป็นตำแหน่งที่เหมาะมากสำหรับวางของเล่นชั่วคราวแล้วค่อยคืนให้พวกเขาทีหลัง”
    นอกจากนี้ หนึ่งในกล่องเก็บของด้านข้างที่นั่งยังติดตั้งที่ชาร์จไฟแบบ 12 โวล์ต สำหรับเกมคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นดีวีดี ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตสำหรับคุณพ่อคุณแม่จำนวนมาก และเมื่อกลับจากการเดินทางท่องเที่ยว ผู้ขับขี่ยังใช้ที่ชาร์จไฟดังกล่าวเป็นช่องเสียบเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กเพื่อทำความสะอาดรถให้ปลอดฝุ่น ทราย หรือเศษขนมได้อีกด้วย
    การรักษาความสะอาดและเรียบร้อยภายในรถอาจเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เวลาและความมีวินัยอยู่สักหน่อย แต่ถ้ารถของคุณมีช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ที่เพียงพอและเหมาะสม คุณย่อมลดความกังวลใจลงได้ว่าอย่างน้อยรถของคุณคงไม่มีถุงขนมปลิวว่อน หรือมีขวดน้ำกลิ้งไปติดอยู่ใต้เบรก เพียงเท่านี้คุณก็เดินทางได้อย่างปลอดภัยและสบายใจมากขึ้นแล้วละ

5 เคล็ดลับ กำจัดความรก
    1. รถทุกคันควรมี “กล่องเก็บของที่จำเป็น” เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน สิ่งของต่างๆ ในกล่องนี้อาจมีตั้งแต่น้ำดื่ม ขนมที่ให้พลังงานสูง ไฟฉายและถ่านสำรอง สายจั๊มพ์แบตเตอรี่ และอื่นๆ สิ่งที่คุณควรทำก็คือรวบรวมของเหล่านี้ไว้ในกล่องที่มีฝาปิดให้เรียบร้อยและเก็บเอาไว้ท้ายรถ
    2. หา “ตะกร้าสัมภาระ” มาวางที่พื้นรถหรือท้ายรถ ตะกร้านี้มีไว้สำหรับใส่ของที่คุณจะต้องใช้งานระหว่างวัน อาทิ เสื้อผ้าที่คุณจะต้องเอาไปส่งร้านซักรีด พัสดุที่คุณเพิ่งรับมาจากไปรษณีย์ หรืออาหารแมวที่เพิ่งซื้อมาฝากสัตว์เลี้ยงที่บ้าน ตะกร้าใบนี้จะช่วยจัดการให้สิ่งของต่างๆ ที่คุณต้องหยิบใช้ระหว่างวันดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
    3. การใช้เวลาอยู่ในรถวันละหลายชั่วโมง ทำให้ขยะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก คุณจึงควรเตรียมถุงพลาสติกเล็กๆ ไว้ใส่เปลือกลูกอม ซองขนม กระป๋องเครื่องดื่มเปล่า และกระดาษชำระ อย่าลืมเอาถุงขยะไปทิ้งทุกครั้งที่เติมน้ำมันหรือเมื่อกลับถึงบ้านด้วยละ
    4. ถ้าคุณทานอาหารในรถ ระวังอย่าให้เศษอาหารหล่นหรือปล่อยสิ่งสกปรกทิ้งไว้โดยไม่ยอมดูดฝุ่นหรือหยิบไปทิ้ง วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยดูแลเบาะและพรมในรถของคุณให้สะอาดอยู่เสมอก็คือการพกทิชชู่เปียกไว้ในกล่องเก็บของเพื่อเช็ดเศษขนมที่หล่นโดยไม่ตั้งใจ หรือใช้เช็ดมือเปื้อนๆ ก่อนป้ายไปโดนส่วนอื่นๆ ของรถ
    5. จัดระเบียบรถของคุณเป็นประจำทุกวันเมื่อกลับถึงบ้าน ไม่ใช่แค่หยิบชิ้นนั้นไปวางตรงนี้ หรือย้ายขยะจากมุมหนึ่งไปวางอีกมุมหนึ่งเท่านั้น แต่การหยิบของที่ไม่ใช้แล้วออกจากรถ และทำความสะอาดทันทีหากตัวคุณเอง ลูกๆ หรือสัตว์เลี้ยงทำให้รถสกปรก จะช่วยคุณลดปัญหาจากการแบกขยะกองโตไปไหนมาไหนด้วยได้ในที่สุด