เมื่อพูดถึงการขับรถยนต์ไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะการเดินทางไกลไปยังต่างจังหวัดที่หนทางที่ยาวไกล และการใช้ความเร็วที่สูงในเขตนอกเมืองนั้น ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งหากคุณช่างสังเกตการณ์จากเพื่อนร่วมทางแล้วล่ะก็ อันตรายมิอาจย่างกลายได้เลย
    สัญญาณเตือนเพื่อนร่วมทางนั้น ไม่ใช่สัญญาณอะไรที่เป็นทางการ หากแต่คนขับรถทั้งหลายไม่ว่าจะรถเล็ก รถใหญ่ต่างร่วมช่วยกันสร้างขึ้น เพื่อเตือนอันตรายหรือให้ระมัดระวัง ซึ่งคุณจะสามารถสังเกตสัญญาณเหล่านี้ได้จาก รถยนต์ที่ขับเป็นประจำ อธิ รถบรรทุก 10 ล้อ รถตู้โดยสาร รถบัส บขส. ไม่เว้นกระทั่งรถยนต์ส่วนบุคคลที่คอยเตือนเรา
    วิธีการอ่านก็ง่ายแสนง่ายเพราะ เขาจะบอกผ่านจุดที่เราสังเกตได้ง่าย โดยเฉพาะ ไฟหน้า และไฟเลี่ยว โดยมากจะเตือนอยู่ 2 เรื่อง คือ 1 ด่านตรวจจับของตำรวจทางหลวง และ อุบัติเหตุที่ยังมีการกีดขวางการจราจร ซึ่งเราต้องเข้าใจวิธีอ่านและสัญญาณก่อน จึงจะรู้ความหมายและเข้าใจได้ถูกต้อง รับรอง.. ไม่ยากเกินเข้าใจ
    1. เปิดไฟ ซ้ายที-ขวาที สลับกันไป นี่เป็นสัญญาณ ที่เรามักจะพบในรถแทบทุกประเภท ซึ่งให้ความหมายถึง มีการเบรกระทันหัน และหรือข้างหน้ามีอุบัติเหตุ เมื่อพบสัญญาณเช่นนี้ไม่ควรแซงขึ้นไปทางขวาโดยเด็ดขาด เพราะอาจเจอกับการกีดขวาง เว้นแต่มั่นใจเสียก่อน สรุป เจอสัญญาณนี้ก็ควรใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นแล้วกัน
    2. เปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วชะลอความเร็ว สัญญาณนี้หมายถึง ทางสะดวกสามารถแซงขึ้นหน้าได้ ซึ่งเขาจะทำสัญญาณก็ต่อเมื่อถนนที่วิ่งเป็นถนนแบบ 2 เลน สวนกัน ที่ท่านต้องมองให้ขาดเองด้วย ว่าตกลงเขาจะจอดรึเปล่า แต่โดยธรรมชาติหากเขาต้องการจอดก็จะเปิดไฟเลี้ยวแล้วชิดเข้าข้างทางทันที
    3. เปิดไฟเลี้ยวขวา ความจริงแล้วถ้านี่คุณพบอยู่บนถนนทางหลวง หมายถึงสัญญาณไฟขอทางเพื่อแซงรถคันหน้า ซึ่งคุณจะให้ไม่ให้ ควรดูที่ความเร็วและระยะทางความห่าง แต่หากคุณเจอ 10 ล้อเปิดไฟนี้ก็ควรชะลอทันที เพราะโดยมากพี่ท่านจะพรวดออกมาทันที หลังจากเปิดสัญญาณ และเราจะแซงผ่านเขาไปได้เมื่อเขาเปิดเลี้ยวซ้าย ก็แสดงว่าทางสะดวกครับ

    4. ขับสวนกัน แล้วรถฝั่งตรงข้ามกระพริบไฟ 2 ที หรือปิดเปิดไฟหน้าตอนกลางคืน อันนี้ให้สันนิษฐานได้เลยว่าข้างหน้าเรามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ควรลดความเร็วจากเดิมที่ใช้อยู่ทันที ซึ่งโดยประมาณสัญญาณนี้จะถูกทำขึ้นในระยะไม่เกิน 500 เมตร จากจุดเกิดเหตุ อย่างมากไม่เกิน 1 กิโลเมตร
    5. กระพริบไฟหน้าพร้อมเปิดไฟเลี้ยวทางด้านขวา สัญญาณดังกล่าวเป็นการบ่งชี้ถึงด่านตำรวจ ซึ่งหากไฟเลี้ยวถูกเปิดทางด้านขวา แสดงว่ามีด่านตรวจอยู่ทางด้านเรา ก็เตรียมตัวเตรียมใจคุยกับพี่ตำรวจได้เลย
    6.ในยามกลับรถ รถที่ขับมาในทางกระพริบให้เรา 1 ที หมายความว่า ทางสะดวกกลับรถได้เลย ซึ่งสัญญาณนี้เป็นลักษณะมาตราฐานสากลใช้กันทั่วโลก ถ้าเขากระพริบ 2 ที หรือ อาจจะบีบแตรร่วมด้วยแสดงว่าไม่อนุญาตให้กลับ อาจเพราะมาด้วยความเร็วสูง
    7. ขับรถสวนกันแล้วกระพริบไฟ 1 ที เป็นสัญญาณที่ใช้หมายถึง ขอคำแนะนำการความสะดวกในการขับขี่ทางข้างหน้า เช่นด่านตรวจ และเป็นการทักทายและตรวจสอบคนขับในรถคันที่สวนว่าง่วงนอนหรือจะมีอาการหลับในหรือเปล่า ถ้าไม่ ให้เรา ลิบไฟ 1 ที หมายถึง ทางสะดวก และเพื่อเป็นการทักทาย ไม่มีอะไรมาก
    8.ในเลนสวนกัน พบรถช้า และคันที่ 2 ในขบวน กระพริบไฟแล้วเบนหัวออก แบบนี้ให้ชะลอความเร็วและชิดไหล่ทางทันที เพราะรถคันที่ให้สัญญาณดังกล่าวกำลังจะแซง ซึ่งเขาจะไม่รอช้าให้คุณผ่านไปก่อน ควรจะหลบเข้าข้างทางเสีย เพื่อความปลอดภัยของคุณ
    9. ในเลนสวนกัน รถเปิดไฟใหญ่แซงแล้วลิบไฟขณะแซง แสดงว่า เขาลากเพื่อนมาด้วย ซึ่งอาจจะมีจำนวน 4-5 คัน อันนี้ก็ควรจะชะลอความเร็วลงไหล่ทางเหมือนกัน บางครั้งอาจหมายถึงแซงทั้งขบวนควรระวังให้ดีครับ ..
    สัญญาณต่างๆ เหล่านี้ เป็นวิธีที่เพื่อนร่วมทางมักให้สัญญาณในเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนถนน หากท่านสังเกตให้ดีก็จะพบว่า การกระทำที่ดูไม่มีค่าเหล่านี้มีประโยชน์ในการใช้ทางอย่างมาก โดยเฉพาะ ยามขับขี่ในระยะทางไกลเวลาไปต่างจังหวัด