สี 'รถ' ตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก

นิตยสาร รถ Weekly

    ตามระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการกำหนดสีและลักษณะของรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2549 มาตรา 13 ข้อ 5 บอกไว้ว่า การกำหนดสีของรถให้เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถกำหนดสีที่เป็นสีหลัก โดยไม่คำนึงถึงความเข้มของสีที่แตกต่างกัน ตามตัวอย่างที่กำหนดในภาคผนวก ก ซึ่งในภาคผนวก ก นั้นมีรายละเอียดดังนี้

    - สีแดง หมายความถึง สีแดงเลือดหมู สีแดงเลือดนก สีแดงบานเย็น สีแดงทับทิม
    - สีน้ำเงิน หมายความถึง สีน้ำเงินเข้ม สีคราม สีกรมท่า
    - สีเหลือง หมายความถึง สีเหลืองอ่อน สีเหลืองทอง สีครีมออกเหลือง
    - สีขาว หมายความถึง สีขาวงาช้าง สีครีมออกขาว
    - สีดำ หมายความถึง สีดำออกเทา
    - สีม่วง หมายความถึง สีม่วงอ่อน สีม่วงเข้ม สีม่วงเปลือกมังคุด
    - สีเขียว หมายความถึง สีเขียวใบไม้ สีเขียวอ่อน สีเขียวเข้ม สีเขียวขี้ม้า
    - สีส้ม หมายความถึง สีแสด สีอิฐ สีปูนแห้ง
    - สีน้ำตาล หมายความถึง สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลไหม้ สีน้ำตาลเข้ม สีแชล็ค
    - สีชมพู หมายความถึง สีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม
    - สีฟ้า หมายความถึง สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม
    - สีเทา หมายถึง สีเทาอ่อน สีเทาออกดำ สีบรอนซ์เงิน สีตะกั่วตัด

    เป็นอันแก้ข้อสงสัยของหลายๆ ท่านว่าทำไมสีในสมุดทะเบียนจึงแจ้งเป็นสีหลัก ไม่ได้ใส่รายละเอียดว่าเป็น สีเขียวรอนซ์ สีฟ้าอ่อน สีน้ำเงินเหลือบ หรือ สีงาช้า ทั้งนี้การกำหนดเรียกสีดังกล่าวประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ข้อสำคัญลืมไม่ได้คือรถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงสีของรถให้ผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้ เจ้าของรถต้องแจ้งนายทะเบียนภายใน "7 วัน" นับแต่วันเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องตามลักษณะที่เป็นจริง มิฉะนั้นจะมีความผิดทางกฎหมาย