เนื่องจากรถแต่ละคันนั้นราคาค่างวดก็ไม่ได้อยู่ที่หลักหมื่น แต่เป็นหลักหลายแสนบาท เพราะฉะนั้นการจะตกลงปลงใจกับรถสักคันนั้นต้องคิดแล้วคิดอีกให้รอบคอบ ใช้แค่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกสวย เป็นที่นิยม หรูดูดีแค่นั้น แต่ควรพิจารณาและหาข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจ บางท่านก็ซื้อรถ ดำเนินเรื่องไปด้วยความราบรื่น แต่บางท่านก็มีปัญหาติดขัดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือบางท่านก็ดำเนินเรื่องไม่ผ่านเลยก็ย่อมมี โดยวิธีการจองรถใหม่ มีดังนี้
1.เลือกรุ่นรถที่ต้องการ ศึกษาข้อมูลรถที่ท่านชอบอย่างละเอียดเพราะบางทีรถยอดนิยมในใจท่านอาจจะไม่ดีหรือไม่เหมาะสมกับท่านเลยก็เป็นได้ ควรหารถเผื่อเลือกที่ชอบรองลงมาไว้สัก 2-3รุ่นด้วย
สิ่งที่ควรหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกรถมีดังนี้
- การใช้งาน ควรเลือกรถให้เหมาะกับการใช้งานหลักของท่าน
- ระบบขับเคลื่อน ซื้อรถกระบะแต่อยากขับเกียร์อัติโนมัติ หรือขับรถเก๋งแต่ชอบเกียร์ธรรมดา ก็เลือกให้เหมาะตามความถนัด
- มูลค่ารถ ซึ่งผกผันไปตามแรงม้าและฟังก์ชั่น เอาฐานะทางการเงินและกำลังจ่ายของท่านเป็นหลัก อย่าฟังคำยุยงของคนอื่น เพราะคนจ่ายคนผ่อนคือคุณ ยกเว้นแต่มีผู้สนับสนุนทางการเงิน
- สี เมื่อมีสีที่กำลังมาแรง ท่านอาจจะต้องจ่ายเพิ่มหากเลือกสีนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็เป็นสีพื้นฐานที่รถทุกรุ่นจะมี เพียงแต่เจ้าของค่ายอาศัยความนิยมนี้เป็นตัวเพิ่มมูลค่าให้กับมัน
2.ได้รุ่นที่ต้องการแล้วก็ดูราคาค่างวด ท่านอาจจะไม่มีกำลังซื้อเพียงพอก็เป็นได้ หรืออาจจะมีเงินเหลือเฟือพอจะอัพเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่า ถึงได้แนะนำไปตอนแรกว่าให้หารุ่นอื่น ๆ เผื่อไว้ด้วย
3.เลือกศูนย์ที่ไว้ใจได้ ทางศูนย์รถต่าง ๆ จะมีโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ท่านได้ตัดสินใจเลือก การที่แนะนำให้เลือกศูนย์ที่ไว้ใจได้นั้นก็เพราะท่านต้องผูกพันกับศูนย์นั้นไปอีกยาวนาน ไม่ว่าจะต้องเอารถไปเช็กสภาพ เอารถไปซ่อม หรืออะไรก็แล้วแต่ การพิจารณาก็มีดังนี้
- ศูนย์ที่ใกล้บ้าน นอกจากสะดวกในการเดินทางแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมัน
- เช็กประวัติของศูนย์ อย่างที่บอกว่าศูนย์ใกล้ก็อาจจะไม่ประทับใจท่าน ลองถามเพื่อน ๆ ก็ได้ว่าซื้อรถจากศูนย์ไหน เจอปัญหาอะไรบ้างหรือ ประทับใจอะไรบ้าง
4.เลือกเซลล์ เรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเซลล์ที่ดีจะทำให้คุณดำเนินเรื่องการจองและซื้อขายได้อย่างราบรื่น และยังช่วยให้คุณได้รถตามสเปคที่ขอไป หรือได้รถก่อนกำหนด เวลารถมีปัญหาในช่วงได้รถมาใหม่ ๆ ท่านก็สามารถพึ่งพาเซลล์ได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะวางใจจองรถกับเซลล์คนไหน ควรพิจารณาดังนี้
- น้ำเสียงและคำพูด ฟังแล้วเข้าใจง่าย ไม่พูดเร็วรัวจนคุณจับใจความไม่ทัน
- ดูกิริยา ท่าทาง ว่ากระตือรือร้นหรือหลุกหลิก ดูเป็นมิตรหรือดูข่ม
- ถามได้ ตอบได้ แม้จะไม่ใช่อับดุลที่จะต้องตอบคำถามได้ทุกเรื่องแต่เป็นเซลล์ก็ควรจะต้องรู้รอบเรื่องรถที่คุณสนใจ
- อย่าเลือกเซลล์แค่หน้าตาดี ระวังจะเจอแบบปากหวานก้นเปรี้ยว
5.ของแถม ยุคสมัยนี้การแข่งขันสูงมาก ใครก็อยากได้ยอด อยากขายรถได้ การมีของแถมจึงเป็นตัวจูงใจให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น โดยของแถมที่นิยมแถมให้ลูกค้านั้นมีดังนี้
- ประกันภัยชั้น 1 เป็นเวลา 1ปี
- น้ำมันเต็มถังตอนออกรถ
- เบาะหนัง
- ฟิล์มกันแดดรอบคัน
- เคลือบเงา เคลือบกันสนิม
- อุปกรณ์แต่งรถต่าง ๆ เช่น สปอยเลอร์ กระจังหน้า ฯลฯ
- Sensor ถอยหลัง
- สัญญาณกันขโมย
- อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ผ้าคลุมรถ ผ้าคลุมเบาะ ผ้าหุ้มพวงมาลัย พรมปูพื้น ที่ล็อกพวงมาลัย ฯลฯ
6.ประกันชั้น 1 รถใหม่ทุกคันต้องทำประกันภัย ไม่ว่าท่านจะได้แถมหรือไม่ ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทว่ามีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน เมื่อเกิดปัญหาต้องซ่อมรถที่ไหน ต้องซ่อมที่ศูนย์รถหรือซ่อมที่อู่ธรรมดา แล้วต้องสำรองเงินออกก่อนหรือไม่ต้องสำรองเงิน ทางเราควรเช็กข้อมูลพวกนี้ให้ดีเสียก่อน
7.สินเชื่อหรือไฟแนนซ์ สำหรับท่านที่ไม่ได้ซื้อรถด้วยเงินสด ควรสอบถามกับทางเซลล์ด้วยว่าจัดไฟแนนซ์ของบริษัทอะไรให้สิ่งที่ควรสอบถามและควรรู้ คือ
- บริษัทหรือธนาคารอะไร เพื่อจะได้พิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ
- ดอกเบี้ยเท่าไร หากดอกเบี้ยสูงก็ไม่ควรเลือก เพราะจะส่งผลในระยะยาว
- ให้เซลล์ช่วยคำนวณให้ว่าท่าน จะต้องจ่ายส่วนใดบ้าง เช่น ค่าจดทะเบียน ค่ามัดจำป้ายแดง ค่าประกันภัยชั้น 1 ค่าประกันภัยวงเงินสินเชื่อ
8.จองรถ เมื่อตกลงปลงใจและเห็นว่าขั้นตอนต่างๆ นั้นเป็นที่พอใจก็มาถึงขั้นตอนการจองรถรุ่นที่ท่านตกลงปลงใจจะเอา ซึ่งก็ต้องมีเงินจองซึ่งเท่าไรก็แล้วแต่ทางศูนย์จะกำหนด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ในใบจองจะต้องระบุของแถมที่บอกว่าจะแถมให้ครบถ้วน อย่าให้เซลล์บอกปากเปล่าเด็ดขาด เชื่อได้เลยว่า หากของแถมไม่ได้ระบุในใบจองท่านจะมีโอกาสได้ของแถมเพียง 1% เท่านั้น
- ระบุวันรับรถให้ชัดเจนตรงกับที่ได้ตกลงกันปากเปล่า และมีหมายเหตุด้วยว่า “ หากไม่ได้รับรถตรงตามกำหนด ท่านมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกและได้รับเงินคืนเต็มจำนวน”
- สุดท้ายนี้ก็ให้ขอใบเสร็จการจอง เพราะจะได้ใช้เป็นหลักฐานตอนรับรถหรือตอนขอรับเงินคืนเนื่องจากกรณีต่าง ๆ เช่น ศูนย์ผิดนัด หรือเมื่อได้รถไม่ตรงกับที่จองไว้
9.ถึงเวลารับรถ เมื่อวันที่รอคอยมาถึงแร้ว เซลล์จะโทรมาบอกให้คุณมารับรถ ซึ่งถ้าโชคดีคุณจะได้รับรถก่อนกำหนด หากท่านรับของแถมที่ต้องไปติดตั้งที่ศูนย์หรือที่ร้านต่าง ๆ อีกทีหนึ่ง ท่านต้องไปดูและตรวจเช็กสภาพรถอย่างละเอียด