45 จุดตำรวจคุมเข้มจอดรถ จำนวนแก้รถติด

ปัญหา “รถติด” มีสาเหตุจากปัจจัยหลายประการ ส่วนใหญ่จะมุ่งประเด็นไปที่ปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ปัจจัยที่จะมองข้ามไม่ได้ คือ การจอดรถมั่วซั่วกีดขวางการจราจร

    หลังจากที่ พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบงานจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ได้เห็นการเสนอแนวคิดโครงการแก้ปัญหารถติดต่าง ๆ มากมาย โดยโครงการที่เห็นเป็นรูปธรรม ที่เริ่มดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา คือ โครงการยกรถจอดผิดกฎหมายออกจากถนน 10 สายหลัก จากเดิมที่ตำรวจใช้มาตรการล็อกล้อ แต่รถก็ยังจอดกีดขวางการจราจรอยู่ จึงหันมาใช้มาตรการจับ-ปรับ-ยก โดย ผู้กระทำผิดกฎหมายนี้ต้องจ่ายค่าปรับ 500 บาท ค่ายกรถ 500 บาท และหากยังไม่ไปรับรถคืนจะมีค่าดูแลอีกวันละ 200 บาท ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และพบว่าการจราจรของถนนทั้ง 10 สายคล่องตัวขึ้น มีท้ายแถวลดลง จึงได้ขยายโครงการต่ออีก 30 สาย รวมเป็น 40 สาย
    สำหรับโครงการแก้ปัญหาการจราจรที่จะนำไปสู่การปฏิบัติในลำดับถัดไป คือ โครงการแยกป้ายจอดรถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ ออกจากกัน ซึ่งหลังจากที่ บช.น.ได้มีการรวบรวมข้อมูลทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ามีทั้งสิ้น 45 จุด ที่มีรถสาธารณะจอดไม่เป็นระเบียบ และต้องมีการแก้ไขอย่างจริงจัง ประกอบด้วย
1. ป้ายจอดรถประจำทางหน้าอาคารฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก
2. ป้ายจอดรถประจำทางหน้าห้างเอสพลานาด ถนนรัชดาภิเษก
3. หน้าตลาดศรีเขมา ถนนประชาราษฎร์สาย 1
4. หน้าห้างตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู
5. ถนนราชปรารภขาออก หน้าโรงแรมอินทรา
6. หน้าห้างแพลทินัม ถนนเพชรบุรี
7. ป้ายรถประจำทาง ถนนพหลโยธิน ขาเข้าและออก ปากทางลำลูกกา
8. ป้ายรถประจำทางหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว และฝั่งตรงข้าม ถนนพหลโยธิน
9. ป้ายรถประจำทางเชิงสะพานข้ามแยกเกษตร ถนนพหลโยธิน ขาเข้าเเละออก
10. ป้ายรถประจำทางปากซอยรามอินทรา 83-85
11. ป้ายรถประจำทางหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าพระนครเหนือ ถนนพิบูล สงคราม     
12. ตลาดสะพานใหม่ ถนนพหลโยธิน
13. ตลาดนัดจตุจักร ถนนพหลโยธิน
14. ทางแยกหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง
15. แยกสำนักงานเขตลาดกระบัง
16. แยกวัดพลมานีย์ ถนนหลวงแพ่ง
17. สถานีรถไฟลาดกระบัง
18. หน้าตลาดใหม่มีนบุรี
19. หน้าตลาดจตุจักร 2 ถนนสีหบุรานุกิจ
20. สามแยกเจ้าคุณทหาร ถึงสะพานฉลองกรุง 2
21. หน้าตลาดนัด กกท. ถนนรามคำแหง
22. ถนนเสรีไทย ตั้งเเต่ ซอย 9-17
23. หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา
24. หน้าห้างซีคอนสแควร์และพาราไดซ์ปาร์ค ถนนศรีนครินทร์
25. หน้าห้างเซ็นทรัลพระราม 3 ถนนพระราม 3
26. หน้าตลาดรุ่งเจริญ ถนนสาธุประดิษฐ์
27. ป้ายรถประจำทางหน้าอาคารลุมพินีทาวเวอร์ ถนนพระราม 4
28. หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ
29. หน้าตลาดอ่อนนุช (ตรงข้ามบิ๊กซี สาขาอ่อนนุช)
30. ปากซอยอุดมสุข ถนนสุขุมวิท
31. แยกอโศกมนตรี
32. ท่าเรือคลองเตย
33. ปากคลองตลาด
34. ถนนเยาวราช
35. หน้าห้างมาบุญครอง ถนนพญาไท ถนนพระราม 1
36. หน้าห้างสยามพารากอน ถนนพระราม 1 37. ปากซอยบางแวก 2 ทางเข้าพณิชยการธนบุรี
38. หน้าห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี
39. ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ถนนบรมราชชนนี
40. ป้ายรถประจำทางปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 12
41. ป้ายจอดรถหน้าตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศิริราช
42. ป้ายรถประจำทางหน้าตลาดไทยช่วยไทย ถนนรัชดาภิเษกขาออก
43. ป้ายรถประจำทางหน้าตลาดดาวคะนอง ถนนตากสินขาออก
44. ถนนเพชรเกษม ขาออกหน้าบริษัทนันยาง
45. หน้าห้างเดอะมอลล์บางแค ถนนเพชรเกษม
                                        

พล.ต.ต.อดุลย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอความร่วมมือในการเเก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ตลาด และป้ายรถเมล์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบผ่านทางสายด่วน 1197 ทั้งนี้ได้ให้แต่ละ สน.ไปสำรวจพื้นที่ที่มีปัญหาทั้ง 45 จุด เพื่อกำหนดจุดจอดรถเมล์ รถตู้ และรถแท็กซี่แยกออกจากกัน พร้อมทั้งให้บริหารจัดการมาว่าแต่ละจุดจะสามารถจอดรอได้กี่คัน และให้หาพื้นที่สำรองในการจอดระหว่างรอเข้าป้าย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับภาพรวมการจราจรบนถนนสายหลัก โดยให้ทำข้อมูลทั้งหมดให้เรียบร้อยภายในวันที่ 15 พ.ย. นี้ พร้อมขอความร่วมมือ กทม.ไปจัดทำป้ายกำหนดจุดจอด และป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ คาดว่าจะเริ่มจัดระเบียบการจอดได้ประมาณวันที่ 20 พ.ย. หรือภายในต้นเดือน ธ.ค.นี้ โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกันในการกวดขันดูแลและบังคับใช้กฎหมายเรื่องข้อห้ามการจอดที่ผิดกฎหมายทั้งหมด เชื่อว่าถ้าสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเคร่งครัด จะช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้อีกระดับหนึ่ง