ระบบปรับอากาศ หรือ แอร์ นั้นเรียกได้ว่าเป็นเสมือนตัวช่วยในรถยนต์ที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ก็เพราะว่าสภาพอากาศบ้านเราในหน้าร้อนที่ร้อนเอามากๆ หรือถ้าเรียกเป็นภาษาชาวบ้านเขาก็ว่า “ร้อนตับแตก” และถ้ายิ่งผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเราที่ต้องผจญกับอากาศภายนอกในช่วงเที่ยงวัน ยิ่งต้องกระหน่ำเปิดแอร์หรือระบบปรับอากาศให้เย็นที่สุด แต่บางครั้งเมื่อปรับสวิทน้ำยาแอร์ไปที่อุณหภูมิต่ำสุด แอร์เจ้ากรรมก็ยังไม่เย็นเสียที หลายๆท่านอาจจะไปโทษน้ำยาแอร์ว่าหมดบ้างล่ะ เสื่อมสภาพบ้างล่ะ แต่บางครั้งการใช้งานของเราเองเนี่ยแหล่ะครับ ที่เป็นสาเหตุในการทำให้ระบบปรับอากาศนั้นชำรุดก่อนวัยอันควร วันนี้นายทีจึงมีวิธีดีๆในการถนอมแอร์รถยนต์ให้เย็นอยู่คูรถคุณไปอีกนานครับ
1.ทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้ทำการปิดระบบปรับอากาศก่อนทุกครั้ง และสังเกตนะครับว่าปุ่ม A/C อยู่ที่ตำแหน่งเปิดหรือปิด ถ้าเปิดอยู่ให้เราปิดการใช้งานสวิทช์ A/C ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อเป็นการถนอมคอมเพรสเซอร์แอร์หรือเรียกกันง่ายๆว่า “คอมแอร์” ยังไงละครับ และถ้าเพื่อนๆกำลังจะขับรถถึงที่หมายในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ให้ปิดสวิทช์ A/C เพื่อปิดการทำงานของคอมแอร์ และให้ปรับพัดลมให้แรงที่สุดเพื่อเป็นการไล่ความชื้นจากตู้แอร์ออกจากคอยล์เย็น ซึ่งความชื้นนี่แหละครับเป็นสาเหตุของกลิ่นตุๆที่มาจากช่องแอร์ ทิ้งไว้สัก 3 นาทีจากนั้นอย่าลืมปิดแอร์ทุกครั้งก่อนดับเครื่องนะครับ
เพื่อนๆรู้หรือไม่ครับว่า น้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ Refrigerant 12 (R-12) และ Refrigerant 134a (R134a) และทั้งสองชนิดนั้นไม่สามารถใช้ด้วยกันได้ ก่อนอื่นที่จะเติมน้ำยาแอร์นั้นให้เราทำความเข้าใจกับรถยนต์ของเราเองก่อนว่าใช้น้ำยาแอร์รุ่นไหน โดยถ้าไม่ทราบว่าใช้รุ่นไหนละก็(รูป04) ให้เปิดฝากระโปรงรถคุณดู โดยดูที่ฝาปิดน้ำยาแอร์ถ้าเป็นฝาล็อคนั่นคือเป็นระบบ 134a แต่ถ้าเป็นหัวแบบเกลียวก็คือจะต้องใช้น้ำยาแอร์รุ่นเก่า R-12 ครับ และการเติมน้ำยาแอร์ก็ไม่ควรเติมบ่อยเกินไป เพราะการเติมน้ำยาบ่อยๆอาจทำให้คอมแอร์เสียหาย ถ้าหากเพื่อนๆเติมแล้วไม่เย็นขึ้น แสดงว่ามีรอยรั่วในระบบทำความเย็นแล้วละครับ
3.เมื่อไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานหลายๆ วัน ก่อนที่จะติดเครื่องยนต์ควรเปิดกระจกหรือประตูออก จากนั้นเปิดแอร์ทิ้งไว้ราว 5 นาทีทั้งนี้เพื่อป้องกันความชื้นที่จะติดอยู่ตามท่อแอร์และป้องกันการรั่วของระบบแอร์ได้ครับ
4.การตรวจเช็คแอร์รถยนต์ส่วนใหญ่จะเข้าไปเช็คในศูนย์บริการของรถยนต์ ก็คือทุกๆ 3 เดือน หรือ 5000 กิโลเมตร หรือสะดวกไปเช็คตามศูนย์บริการอิสระที่มีราคาค่าแรงที่ถูกกว่า ซึ่งช่างก็จะทำการปรับตั้งสายพาน ตรวจน้ำยา ล้างเป่าแผงระบายความร้อน ส่วนถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรจะเข้ามาเช็คที่ศูนย์โตโยต้าจะดีกว่าครับ แต่ต้องดูด้วยนะครับว่าประกันแอร์รถยนต์ของท่านหมดไปหรือยัง เพราะทาง Toyota จะรับประกันแอร์ถึง 36 เดือน หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่เงื่อนไขไหนจะถึงก่อนครับ