สิ่งที่ต้องตรวจเช็คเพื่อการทำงานที่ปกติของเครื่องยนต์ มีดังนี้
ควันจากท่อไอเสีย
ถ้ามีควันออกมาจาก ท่อไอเสีย ให้จดไว้ว่าเป็นสีดำ สีฟ้า หรือสีขาว ถ้ามีควันออกมาเฉพาะตอนที่รถกำลังเคลื่อนที่ ให้เพื่อนของคุณขับรถตามหลังและสังเกตควันนั้น วิธีนี้จะทำให้คุณไม่เสียสมาธิขณะขับรถ
ควันดำเกิดจากเชื้อ เพลิงที่ถูกเผาไหม้ในท่อไอเสีย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการปรับคาร์บูเรเตอร์ (หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง) ไม่ดี หรือตัวกรองอากาศอุดตัน ถ้ามีควันดำ ออกมาเป็นอย่างแรกในตอนเช้าเท่านั้น อาจเป็นไปได้ว่าต้องปรับโช้คหรือส่วนปรับปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ศูนย์บริการซ่อมรถของคุณจะช่วยหา สาเหตุและแก้ไขปัญหาให้คุณได้
ควันสีฟ้าหมายถึง น้ำมันกำลังถูกเผาไหม้ แต่ถ้าเกิดควันสีฟ้าอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าปัญหาจะรุนแรง เพราะแสดงว่าแหวนลูกสูบ หรือผนังกระบอกสูบชำรุดเสียหาย ถ้ามีควันสีฟ้าพ่นออกมาเร็วๆ ในตอนเช้า ปัญหาอาจเป็นที่ปลอกก้านวาล์ว หรือซีลของปลอกก้านวาล์ว ปัญหานี้รุนแรงน้อยกว่า แต่ก็ยังต้องการ การซ่อมทันทีจากศูนย์บริการซ่อมรถ
ควันสีขาวอาจเกิด จากสารหล่อเย็นหรือสารป้องกันการแข็งตัวรั่วหรือถูกดันเข้าไปในห้องเผาไหม้และถูกเผาไหม้ในนั้น สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ ปะเก็นฝาสูบรั่ว ฝาสูบแตก หรือผนังกระบอกสูบชำรุดเสียหาย แต่ควรถามความเห็นจากศูนย์บริการซ่อมรถของคุณก่อนเริ่มดำเนินการซ่อมแซม
การรั่ว
ขณะไปที่รถของคุณ ควรมั่นสังเกต และตรวจเช็คที่กระจกรถในขณะขับขี่ จะสามารถช่วยให้คุณสังเกตพบสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดกับรถ ของคุณ ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าจะสามารถระบุ หรือแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง โปรดปรึกษาสิ่งที่คุณสังเกตเห็นกับศูนย์บริการซ่อมรถ คุณควรให้ข้อมูล มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยให้ช่างหาสาเหตุที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณพบเห็นการรั่ว ให้จดว่ารถจอดบนทางลาดหรือไม่ สังเกตเห็นรอยรั่วที่ตำแหน่งใดใต้ท้องรถ และสีของของเหลวที่รั่วออกมา ตัวอย่างเช่น ของเหลวสีเขียวที่ข้างใต้ ด้านหน้ารถอาจเป็นสารหล่อเย็นเครื่องยนต์ ให้ดูที่เกจวัดอุณหภูมิเพื่อดูว่ารถกำลังร้อนเกินไปหรือไม่ และขอให้ศูนย์บริการซ่อมรถช่วยหาและแก้ไข รอยรั่วนี้
กลิ่นแปลกๆ
กลิ่นแปลกๆ อาจมา จากรถข้างหน้าหรือจากสภาพแวดล้อมรองข้าง แต่ถ้าได้กลิ่นตลอด กลิ่นอาจมาจากรถของคุณ เมื่อต้องบรรยายกลิ่นให้ตัวแทนจำหน่ายของคุณฟัง พยายามจำว่ากลิ่นนั้น:
- กลิ่นออกหวานๆ (อาจเป็นเพราะการเผาไหม้ของสารหล่อเย็นเครื่องยนต์)
- กลิ่นฉุนรุนแรง เหมือนพลาสติกไหม้ (อาจเป็นเพราะเกิดสิ่งผิดปกติทางไฟฟ้า)
- กลิ่นเหมือนยางไหม้ (อาจเป็นเพราะเบรกหรือคลัตช์ร้อนเกินไป)ไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากอะไร ให้ปรึกษาปัญหากับศูนย์บริการ
เสียงที่ผิดปกติ
มีเสียงมากมายเกิด ขึ้นจากรถยนต์ ตั้งแต่เสียงเคาะ เสียงสั่น ไปจนถึงเสียงเสียดสี เสียงดังเอี๊ยด และเสียงฟู่พยายามหาที่มาของเสียงที่คุณได้ยิน และเสียงนั้นได้ยิน เป็นพักๆ หรือต่อเนื่อง ถ้าได้ยินเป็นพักๆ ให้จดบันทึกว่าเกิดเสียงขณะเครื่องยนต์ร้อนหรือเย็น คุณกำลังเร่งความเร็วหรือกำลังใช้ความเร็วคงที่ หรือ มีสัญญาณอะไรเตือนแจ้งบ้าง ข้อมูลที่คุณมีจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับช่างที่ตรวจเช็ครถของคุณ