การตกแต่งรถไม่ได้หมายความว่าเป็นการทำลายรถ หรือทำให้รถด้อยประสิทธิภาพลงจากเดิม จุดหมายของการตกแต่งรถนั้นก็เพื่อต้องการเพิ่มความสวยงามและประสิทธิภาพที่เหนือจากสแตนดาร์ด ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของรถนั้นมีความรู้ความเข้าใจในการตกแต่งรถอย่างไร และมีกำลังทรัพย์แค่ไหนมากกว่า

 เราพอจะแบ่งกลุ่มคนที่แตกรถออกได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ด้วยกัน กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่มีความรู้เรื่องรถและมีกำลังทรัพย์ค่อนข้างมาก กลุ่มนี้เรียกว่าแต่งรถเป็น เราจะเห็นได้จากการเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ จะมีความพิถีพิถันมาก มักจะเลือกใช้อุปกรณ์ตกแต่งที่ผลิตมาเฉพาะรุ่นหรือจากสำนักแต่งที่ผลิตออกมาเพื่อรถยี่ห้อที่ตนเองใช้โดยเฉพาะ หรือเลือกของแต่งที่เป็นออพชั่นของผลิตรถยนต์โดยตรง อย่างเช่นชุดสปอร์ตเลอร์ หรือชุดแอโร่พาร์ทจะต้องเป็นชุดเดียวกันทั้งคัน อย่างเช่นผู้ที่ใช้รถ Mercedes Benz มักจะเลือกใช้ของ AMG, BRABUS ฯลฯ และถ้าค่ายนั้นมีล้อแม็ก ชุดช่วงล่าง ท่อไอเสียสปอร์ต เจ้าของรถกลุ่มนี้ก็มักจะเลือกของจากสำนักแต่งเดียวกัน ถ้าเป็นฝั่งญี่ปุ่นผู้ที่ใช้รถ TOYOTA ก็มักจะเลือกของ TRD เป็นต้น นอกเหนือจากการ เลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพและไม่ข้ามยี่ห้อแล้ว ยังไม่นิยมดัดแปลงอุปกรณ์ข้ามรุ่นข้ามยี่ห้อ จะสังเกตได้จากความเรียบร้อยของตัวรถ ความสะอาดและการดูแลรักษาที่เหนือกว่าผู้ใช้รถทั่วไป ถ้าเป็นรถมือสองที่ได้รับการตกแต่งมาแล้ว และเข้าข่ายว่าเป็นลูกค้ากลุ่มนี้ก็สามารถซื้อได้ (นอกเหนือจากการตรวจสภาพตามปกติแล้ว) กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจ และมีกำลังทรัพย์เหมือนกับกลุ่มแรก แต่ความแตกต่างของกลุ่มนี้คือใจที่ต้องเรียกว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นเลือดร้อน ต้องการความแรงหรือความสวยแปลกตาแบบสุดๆ เราจะเห็นได้จากการตกแต่งที่มุ่งเน้นในเรื่องของพละกำลังของเครื่องยนต์ หรือแม้กระทั่งการโหลดเตี้ยต้องแรงหรือเตี้ยแบบสุดๆ สีสันต้องเจ็บแสบแปลกตา ภายในห้องโดยสารก็ต้องดีไซน์เปลี่ยนโทนสีใหม่หรือติดโน่นติดนี่ เพิ่มเติมเยอะแยะมากมาย เราจะเห็นได้บ่อยๆว่ารถส่วนใหญ่อายุการใช้งานยังไม่มาก แต่กลับยกเปลี่ยนเครื่องเป็นตัวแรงๆกันเป็นเรื่องปกติ ความเตี้ยของรถก็มาจากการตัดเฉือนหรือขยับจุดยึดเพื่อให้เตี้ยตามที่เขาต้องการ และรถในกลุ่มนี้โดยเฉพาะรถที่เปลี่ยนเครื่องยนต์ข้ามรุ่นหรือข้ามยี่ห้อมาแล้ว ซึ่งไม่สมควรที่จะเลือกซื้อโดยเด็ดขาด เพราะมักจะมีปัญหาจุกจิกกวนใจตามมาไม่ได้ขาด

 ทำไมรถที่เปลี่ยนเครื่องมาไม่ควรซื้อ รถแต่งโดยการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้มีความแรงกว่าเดิมนั้น แบ่งคร่าวๆ ได้เป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มแรกจะเน้นเครื่องที่ตรงบอดี้ไม่ต้องมีการดัดแปลงมาก เช่นการนำเครื่อง RB20 DET มาใส่ใน Cefiro A31 หรือการนำเครื่อง B16A มาใส่ใน Civic กลุ่มนี้จะเข้าข่ายการแต่งรถเหมือนกลุ่มแรก คือไม่ต้องการให้มีการตัดเฉือนตัวรถ และการวางเครื่องต้องวางอย่างเรียบร้อยสวยงาม และการตกแต่งส่วนอื่นๆ ก็เช่นกัน จะเน้นในเรื่องของความสวยงามเรียบร้อย และการเลือกใช้ของที่จำเพาะเจาะจงตามรุ่น จะสังเกตได้จากความเรียบร้อยสวยงามของห้องเครื่องและตัวรถด้วย กลุ่มที่สองนั้นมักจะเน้นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือแต่งเครื่องยนต์แบบกลุ่มที่สองในหัวข้อก่อนหน้านี้ ไม่สนว่าตัวรถจะเป็นยี่ห้ออะไร แต่เครื่องยนต์ที่ใช้ต้องเป็นเครื่องแรงๆ อย่างเช่น รถ VOLVO, BMW, Mercedes Benz หรือแม้แต่ Cefiro แต่กลับนำมาวางเครื่อง 2JZ-GTE เป็นต้น รถในกลุ่มนี้ไม่ควรซื้อเพราะเหตุผลหลายๆ อย่าง ให้สงสัยไว้ก่อนเสมอว่า รถที่เจ้าของทำไปขนาดนี้แล้วยอมขาย เนื่องจากมีปัญหาแน่นอน เพราะก่อนที่จะทำส่วนใหญ่รู้ดีว่าราคาตกมาก ถ้าจะขายเมื่อไรก็มีสิทธิ์ช้ำใจมาก อย่างที่สองคือเราไม่รู้ว่าช่างที่วางเครื่อง รวมถึงช่างที่วายริ่งสายไฟนั้นมีความรู้และฝีมือแค่ไหน มาดูกันว่าปัญหาที่ทำให้เจ้าของตัดใจขายมีอะไรบ้าง

ความร้อนสูง แอร์ไม่เย็น โดยเฉพาะรถที่วางเครื่องเทอร์โบข้ามรุ่นข้ามยี่ห้อ ยิ่งรถยุโรปยิ่งเป็นปัญหามาก เนื่องจากระบบพื้นฐานของเซ็นเซอร์และมาตรวัดต่างๆ จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่พบเป็นประจำคือเครื่องยนต์ร้อนจัด แต่มาตรวัดความร้อนขึ้นปกติ อย่างกรณีรถ BMW วางเครื่อง 2JZ-GTE แล้วช่างใช้เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำที่ติดมากับเครื่องต่อเข้าหน้าปัดของรถโดยตรง ค่าที่แสดงจะเป็นค่าที่คลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง ช่างที่ดีมีความรู้จะแก้ไขด้วยการนำเซ็นเซอร์ของอุณหภูมิน้ำจากเครื่อง BMW ตัวเดิมมาทำ อะแดพเตอร์เข้ากับเครื่องยนต์ตัวใหม่ เพื่อให้ค่าความร้อนที่แสดงบนหน้าปัดตรงกับความเป็นจริง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เจอบ่อยมากและทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลง หรือเครื่องยนต์วิ่งไม่ออกเพราะความร้อนที่ตัวเครื่องสูงจัด ผลที่ตามมาอีกอย่างคือแอร์จะไม่ค่อยเย็น โดยเฉพาะเวลาที่ความร้อนของเครื่องยนต์ขึ้นสูงหรือตอนกลางวัน

 เกียร์เปลี่ยนตำแหน่งไม่ครบ อย่างที่บอกไปว่าพื้นฐานของระบบเซ็นเซอร์ของรถต่างรุ่นหรือต่างยี่ห้อจะใช้พื้นฐานไม่เหมือนกัน อย่างรถบางรุ่นใช้สัญญาณความเร็วจากแผงหน้าปัดมาร่วมในการประมวลผล แต่บางยี่ห้อไม่ได้ใช้จากจุดนี้ ทำให้มีปัญหาว่าเมื่อเปลี่ยนเครื่องแล้วเกียร์เปลี่ยนไม่ครบตำแหน่ง หรือเปลี่ยนแล้วกระตุกเพราะบางระบบไม่ทำงาน เนื่องจากวายริ่งสายไม่ครบ หรือพื้นฐานของระบบไม่เหมือนกัน โดยปกติทั่วไปเวลาเกียร์จะเปลี่ยนตำแหน่ง ระบบจะทำการลดองศาไฟจุดระเบิด เพื่อลดแรงบิดของเครื่องยนต์ ทำให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล เพราะข้ามรุ่นข้ามยี่ห้อก็เลยทำให้เกิดปัญหา เพราะสัญญาณที่นำมาใช้อาจจะส่งออกมาคนละรูปแบบและมีค่าไม่เท่ากันก็ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งเรามักจะมองว่าเป็นปัญหามาจากตัวเกียร์

 ตัวรถมีการสั่นสะท้าน เวลาเร่งหรือออกตัวอันเป็นผลมาจากการวางเครื่องไม่ได้เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นทั้งรถขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง รวมถึงการตัดต่อเพลากลางและเพลาขับไม่ดีด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงการวางเครื่อง ข้ามรุ่นที่ต้องมีการตัดเฉือนตัวถังมากๆ ทำให้ความแข็งแรงของโครงสร้างลดลง ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ซึ่งยากมากที่จะแก้ไข บางครั้งก็สามารถแก้ไขได้แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหมือนกับวางเครื่องใหม่อีกครั้ง เจ้าของรถส่วนใหญ่ที่เจอปัญหานี้มักจะทนใช้ไปก่อน พอถึงระดับหนึ่งก็ตัดใจขายในที่สุด

 เร่งฝืด เบรกตื้อ คลัตช์หนัก เป็นเรื่องที่เจอกันเป็นปกติกับรถที่วางเครื่องข้ามรุ่นข้ามยี่ห้อ และแก้ไม่ค่อยหาย หรือกว่าจะแก้ได้ต้องแปลง ต้องตัดแต่งกันวุ่นวาย

 ระบบไฟฟ้าทำงานได้ไม่ครบ เป็นปัญหาที่เจอบ่อยกับรถยุโรปที่วางเครื่องญี่ปุ่น เนื่องจากรถยุโรปโดยส่วนใหญ่นั้นระบบไฟฟ้าจะซับซ้อนมาก ส่วนใหญ่จะแยกกล่องควบคุมต่างหากและระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ จะต่อผ่านกล่อง แต่รถญี่ปุ่นมักจะรวมอยู่ในกล่องเดียวกัน และระบบไม่ซับซ้อนเหมือนกับรถยุโรป ปัญหาทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เจ้าของรถที่ตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องไปแล้วยอมทำใจขาย ซึ่งคนที่จะเดือดร้อนต่อมาก็คือคนซื้อที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องมานั่งไล่แก้ปัญหาหรือทนใช้ไปทั้งๆที่มีปัญหาอยู่ ดังนั้นจึงอยากแนะนำว่าถ้าเป็นรถแต่งก็ควรเลือกซื้อเฉพาะรถในกลุ่มแรกที่แนะนำไป แต่ถ้าเป็นที่เปลี่ยนเครื่องมาแล้วไม่ควรซื้อเด็ดขาด เพราะส่วนมากต้องมานั่งตามแก้ปัญหา กว่าจะจบต้องเสียเวลาและเงินทองจำนวนมาก ซึ่งไม่คุ้นกันเลย ถ้าอยากได้รถที่มีเครื่องแรงๆ จริงๆ ให้หารถสภาพเดิมๆ แล้วลงทุนทำเองดีกว่า จะได้ไม่ต้องเข้าข่ายเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย