ศูนย์ล้อรถยนต์สำคัญอย่างไร

นิตยสารรถ Weekly

หลายท่านคงเคยนำรถเข้าศูนย์บริการแล้วแจ้งให้ช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและปรับตั้งศูนย์ถ่วงล้อ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าศูนย์ล้อนั้นหมายถึงจุดใดและมีผลอะไรกับการขับขี่รถยนต์สำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์คงจะพอทราบแต่สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ที่พึงจะมีรถยนต์คันแรกคงจะยังงงๆ ว่าศูนย์ล้อนั้นคืออะไรวันนี้จะขอขยายความให้เข้าใจกันอย่างลึกซึ้งเลยครับ


การตั้งศูนย์ล้อ คือ การทำให้ส่วนประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบบังคับเลี้ยว ระบบช่วงล่าง ล้อและยาง ทำงานสัมพันธ์กันอย่าง ถูกต้อง ขณะรถวิ่งจะทำให้รถวิ่งได้ตรง พวงมาลัยไม่ดึงไป ทางซ้าย หรือ ขวา ระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวของรถนั้นมีชิ้นส่วนต่างๆ มากมายที่มีการเคลื่อนไหวขณะรถวิ่ง และย่อมจะมีการสึกหรอเกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปจาก สเป็คของรถที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับตั้งศูนย์ล้อเพื่อให้ได้ค่ามาตรฐาน ซึ่งวิธีการชะลอการสึกหรอ หลายท่านคงเคยทราบกันมาบ้างแล้วว่า วิธีชะลอการสึกหรอของยางรถยนต์นั้น สามารถทำได้โดยวิธีง่าย ๆ เช่น การหมั่นตรวจความดันลมยางให้เหมาะสม ไม่เติมลมยางมาก หรือน้อยจนเกินไป แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การตั้งศูนย์ล้อที่ถูกต้องก็เป็นอีกวิธีที่สามารถยืดอายุของยางรถยนต์ได้ ดังนั้น จึงควรทำความรู้จักกับองค์ประกอบ ของศูนย์ล้อ ซึ่งมีการตรวจวัดด้วยกัน 4 มุมดังนี้

มุมโทอิน หมายถึง ลักษณะที่ยางคู่หน้าหุบเข้า หรือยางล้อหน้า ทั้งสองหันเข้าหากัน และ มุมโทเอ้า คือ ล้อหน้าทั้งสองหันออกจากกัน ถ้าล้อทั้งสองหันเข้าหากัน มากเกินไป หรือหันออกจากกันมากเกินไป จะทำให้หน้ายางทั้งสองเกิดการลื่นไถลเสียดสีไป ด้านข้างผลคือทำให้ดอกยางสึกอย่างรวดเร็ว หรือสึกไม่สม่ำเสมอมีลักษณะปลายดอกยางตวัดขึ้น เหมือนปลายขนนกตลอดหน้ายาง

มุมแคมเบอร์ หมายถึง เป็นการเอียงของยางส่วนล่างหรือส่วนบน ถ้าส่วนล่างเอียงเข้าหากันเราเรียกว่ามุม แคมเบอร์ บวก การเอียงของยางส่วนบนจะกางออกในลักษณะ \   / เพื่อให้ยางรับ น้ำหนักบรรทุกได้พอดีกับหน้ายาง เมื่อใช้รถ ไปนานๆ มุมของ แคมเบอร์ อาจเปลี่ยนแปลง ไปได้ และถ้าเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่กำหนดไว้น้ำหนักจะกดลงที่ด้านนอกของยางมากกว่า ด้านในทำให้ยางสึกผิดปกติด้านเดียวและ ถ้าระยะห่างระหว่างด้านล่างของล้อ (ติดพื้นถนน) มีระยะมากกว่าระยะห่างด้านบนของล้อทั้ง 2 ข้าง เรียกว่า แคมเบอร์มีค่าเป็นลบ  เมื่อมองดูแล้วเหมือนกับล้อ แบะออกไปนั่นเอง

มุมแคสเตอร์  หมายถึง เป็นมุมที่ทำให้รถวิ่งไปข้างหน้าได้ง่าย เปรียบได้กับมุม แคสเตอร์ ทั้งสองล้อ ต้องมีมุมเท่ากัน ซึ่งจะทำให้รถวิ่งไป ข้างหน้า ได้ตรงทาง ถ้ามุม แคสเตอร์ ข้างใด น้อยกว่าอีกข้างหนึ่งรถก็จะพยายามหันไปทางด้านน้อย ผู้ขับรถต้องพยายามคืนพวงมาลัยเสมอจะทำให้ยางสึกไม่เรียบเกิดการสึกของดอกยาง ด้านใน ลักษณะปลาย ตวัดเหมือนขนนก

มุมคิงพิน (มุมเอียงแกนบังคับเลี้ยว)  เป็นตัวรับน้ำหนักจากรถไปยังล้อ และขณะเดียวกันก็เป็น เพลาของศูนย์ล้อด้วยมุมของ คิงพิน มีส่วนสัมพันธ์กับมุมของ แคมเมอร์ มาก คิงพิน จะช่วยทำให้การบังคับพวงมาลัยทำได้ง่าย และเมื่อเลี้ยวไปแล้วพวงมาลัยสามารถคืนกลับมาได้เอง คิงพิน นี้เหมือน กับ แคมเมอร์ ทำให้น้ำหนักรถกดลงที่ด้านนอกของยาง ถ้า คิงพิน ผิดพลาด ผลก็คือ จะทำ ให้ยางสึกหรอด้านเดียว

สำหรับศูนย์ล้อที่ผิดพลาดอาจจะทำให้อายุยางของรถคุณ ลดลงอย่างรวดเร็ว สามารถสังเกตได้คร่าว ๆ จากความผิดปกติของการสึกหรอของยาง แต่ศูนย์ ล้อที่ไม่ถูกต้องไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า คนส่วนมากจึงไม่ค่อยสนใจซึ่งความจริงที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากส่วนหนึ่ง ดังนั้น จึงควรตรวจเช็คและปรับตั้งศูนย์ล้อเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน หรือภายหลังจากการทำการซ่อมช่วงล่างทุกครั้งเพื่อยืดอายุการใช้งาน ของยาง และเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : http://phithan-toyota.com