นวัตกรรมยานยนต์มากมายถูกคิดค้น และพัฒนาต่อยอดจนถูกนำไปใช้ได้จริงในรถยนต์ เป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวก หรือช่วยเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ ค่าย“คอนติเนนทอล” หนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนยักษ์ใหญ่ ที่นิยมหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาประดับวงการ ล่าสุดปล่อยระบบ “หน้าจอแสดงผลบนกระจก” (Head-up Display หรือ HUD) รุ่นที่ 2 ซึ่งเตรียมติดตั้งในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ (F30)
โดยหน้าจอ HUD จะแสดงข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อมูลด้านความเร็ว การบอกทิศทาง และสาระบันเทิง (อินโฟเทนเมนต์) รวมทั้งคำเตือนต่างๆ ให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ในวิถีทางตรง หน้าจอของการแสดงผลแบบ HUD จะปรากฏขึ้นทางด้านหน้าของผู้ขับขี่ห่างออกไปราว 2 เมตร โดยจะอยู่เหนือฝากระโปรงรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถรับข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องเบนสายตาออกไปจากท้องถนน
“การแสดงผลแบบ HUD นี้จะช่วยลดอัตราการเสียสมาธิ พร้อมเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ โดยคอนติเนนทอลเริ่มต้นการผลิตระบบHUD ครั้งแรกในปี 2546 และจากประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานจึงช่วยให้บริษัทได้ร่วมมือกับลูกค้า เพื่อผลิต HUD รุ่นที่ 2 ในปี 2553 เป็นผลสำเร็จ ” อีลโก สโปลเดอร์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจติดตั้งเครื่องมือและระบบตอบโต้กับผู้ขับขี่ของคอนติเนนทอล กล่าวและว่า
การแสดงผลเป็นภาพสีสวยสดใสทำให้ HUD ใหม่ของคอนติเนนทอล เมื่อเปรียบเทียบกับสเปคตรัมของสีที่มีอย่างจำกัดในรุ่นก่อนจะพบว่า หน้าจอแอลซีดีรุ่นใหม่แสดงสเปคตรัมของสีได้ครบถ้วนจากภาพที่กำเนิดขึ้นบนการแสดงผลบน TFT เทคโนโลยีจอแอลซีดีสีขาวที่ใช้ในหน่วยกำเนิดภาพใหม่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันด้วยคุณสมบัติต่างๆ อาทิ การแสดงภาพในเวลากลางคืน หน่วยกำหนดภาพใหม่มีจอแอลซีดีเพียง 15 จอ จึงทำให้ HUD ลดปริมาณการใช้พลังงานลงได้เป็นอย่างดีถึงราว 1 ใน 3 ของรุ่นก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ผู้ขับยังสามารถปรับแต่ง HUD ได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยแผงควบคุมในบริเวณที่นั่งคนขับ เนื่องจากมีการใช้สเต็ปมอเตอร์ปรับกระจกแสดงภาพใน HUD ทำให้สามารถปรับตำแหน่งของภาพที่แสดงผลลอยเหนือฝากระโปรงหน้ารถได้
สำหรับการผลิตระบบการแสดงภาพแบบ HUD เพื่อใช้งานในยานยนต์ขนาดกลาง วิศวกรของคอนติเนนทอลให้ความสำคัญกับองค์ประกอบที่จำเป็น 2 ประการ คือ ลดขนาดและน้ำหนัก และปรับลดต้นทุนการผลิต รูปแบบการวางองค์ประกอบใหม่ที่มีความเหมาะสมสูงสุดด้วยการสะท้อนภาพการแสดงผลสู่หน้าจอบนกระจกหน้า ทำให้ลดปริมาณส่วนประกอบที่จำเป็นลงได้เป็นอย่างมาก เมื่อผสานเข้ากับการใช้วัสดุยุคใหม่แล้ว นักพัฒนาผลิตภัณฑ์สามารถลดปริมาตรและน้ำหนักลงต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงครึ่งหนึ่ง หรือมีปริมาตร 3.8 ลิตรและน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : http://www.manager.co.th