เอาสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ ต้องทำอะไรบ้าง?

นิตยสาร รถ Weekly

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายๆ คนเปรียบสัตว์เลี้ยงของตนเป็นเหมือนบุคคลในครอบครัว ในบางครั้งอาจจะไปต่างจังหวัด หรือเดินไปเที่ยวเวลาหลายวัน หรือย้ายที่อยู่ ต้องเอาสัตว์เลี้ยงแสนรักไปด้วย
    แต่จะต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับตัวรถ เช่น ปัญหากลิ่นเหม็นกลิ่นสาบของสัตว์เลี้ยง  หรือการถ่ายของเสียสัตว์เลี้ยง แถมสัตว์เลี้ยงบางตัวอาจจะมีอาการกระวนกระวายต่างๆ เมื่อขึ้นไปบนรถอีก วันนี้เราจะมาแนะนำและการเตรียมพร้อมเพื่อลดปัญหาเหล่านี้กันครับ
    1. วางแผนเส้นทางในการเดินทาง ต้องวางแผนกันซักนิดเพราะการเป็นอยู่ของสัตว์ต่างกับคน สถานที่ที่เราต้องนั้น สามารถเอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วยได้ไหม ขอยกตัวอย่างซักหนึ่งที่ เช่นเขาใหญ่ เขาจะไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นไป ฯลฯ บางที ถ้าทิ้งไว้ที่บ้านของเรา จะมีผลดีกับตัวสัตว์เลี้ยงมากกว่ากันก็ลองวางแผนคิดให้รอบคอบเสียก่อน
    2. จัดการเตรียมตัวสัตว์เลี้ยงให้พร้อมเดินทาง ตรวจดูสุขภาพของเจ้าสัตว์เลี้ยงดูว่ามันปกติไหม และตรวจดูพวกเห็บหมัดให้เรียบร้อย และให้สัตว์เลี้ยงถ่ายของเสียให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเตรียมเดินทาง และถ้ามีเอกสารอะไรที่จำเป็นกับสัตว์เลี้ยงในกรณีที่มันเจ็บป่วยก็อย่าลืมพกติดไปด้วย

    3. จัดพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงอยู่อย่าง เป็นสัดส่วน อย่าให้ไปเล่นก่อกวนในรถหรือก่อปัญหารบกวนในระหว่างขับ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แนะนำให้สวมเชือกสายจูงแล้วเอามาคาดเข้ากับเข็มขัดนิรภัยจะดีกว่า แถมเพิ่มความปลอดภัยให้แก่สัตว์เลี้ยงอีกด้วย เลือกเอาตามความเหมาะสมจะเอาเบาะหน้าหรือเบาะหลัง
    4. เคลียร์จัดเก็บของในรถให้เรียบร้อย ในตัวรถนั้นมักจะมี พรม มีผ้า หรือ หนังซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ง่าย และยังชำรุดเสียหายง่ายอีกด้วย จึงต้องหาผ้าหรืออะไรไปปูให้เสียก่อนให้สัตว์นั่ง นอนเพื่อป้องกันเบาะของเราเสียหาย
    5. ปิดแอร์ ลดกระจกรับลมจากภายนอก คงจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่เปิดแอร์ ที่เราทำไปเพื่อลดกลิ่น แถมตัวสัตว์เลี้ยงเองอาจจะไม่ชินกับการเปิดแอร์ ดังนั้นเปิดกระจกรับลมภายนอกมาช่วยลดกลิ่นจะดีกว่า แต่ก็อย่าเปิดลงไปมากนักในด้านที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ เพราะอาจจะเกิดอันตรายกับตัวสัตว์หรือเจ้าตัวแสบอาจจะกระโดดลงไปได้
    6. น้ำ คนยังหิวน้ำกระหายน้ำได้ สัตว์เลี้ยงก็ต้องการน้ำเช่นกัน แต่ถ้ากลัวว่ารถของเราจะเลอะหรือเปียกแฉะแนะนำให้จอดจุดแวะพัก ให้น้ำสักทีหนึ่ง ประมาณ ชั่วโมงละครั้ง เพื่อลดปัญหาในการเดินทางลง แถมเราเองก็ได้ผ่อนคลายด้วย

    7. อาหาร ก็เช่นกันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็ควรมีจัดหามันด้วย ถ้าเป็น หมาหรือแมวก็คงไม่ค่อยปัญหาอะไรนัก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบสำเร็จรูป แล้วควรจัดให้เป็นเวลาเหมือนกับอยู่ที่บ้าน
    8. อย่าปล่อยสัตว์ไว้ในรถโดยลำพัง   เพราะจะทำให้ตัวสัตว์เลี้ยงเครียด มีอาการกระวนกระวายขึ้นได้ และยิ่งดับเครื่องจอดแล้วจอดกลางแจ้งด้วยก็เหมือนกับเด็กที่ติดอยู่ในรถเลยครับ เพราะควรเอาสัตว์เลี้ยงลงมาด้วย หรือผูกไว้ด้านนอกปลอดภัยจะดีกว่าและลดอาการเครียดของสัตว์ลงด้วย
    9. ถามตัวเองว่าพร้อมแค่ไหน เพราะหลายครั้งการนำสัตว์เลี้ยงเดินทางไปด้วย ก็สร้างความวุ่นวายจนเรารับมือไม่ไหว จนการเดินทางนี้แทบหมดสนุก ซึ่งถ้าถามตัวเองแล้วว่าไม่พร้อมจะดูแลในสถานะการณ์แบบนี้ ลองฝากสัตว์เลี้ยงของเราให้ร้านรับฝากหรือคนรู้จักดูแลก็ได้
    คิดไว้เสมอว่าสัตว์เลี้ยงก็เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นกัน ควรใส่ใจมันมากขึ้นอีกนิด ถ้าจะเอามันเดินทางไปด้วย เพราะมันไม่สามารถบอกคุณได้ตรงๆ หรอกว่ามันเป็นอะไรบ้าง ต้องคอยดูคอยสังเกตมันด้วย ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์จริงๆ