ลากรถอย่างถูกวิธีทำไรอย่างไร!!

นิตยสาร รถ Weekly

ถ้าหากพูดถึงการเดินทางโดยสภาพรถยนต์ที่ไม่พร้อมแล้ว เหตุรถเสียนั้นถือเป็นเรื่องที่แทบไม่สามารจะเลี่ยงได้ โดยเฉพาะเมื่อปัญหาทางด้านเครื่องยนต์ไม่สามารถซ่อมได้ข้างถนน ที่ทั้งอันตราย การนำรถสู่ที่ปลอดภัยจึงเป็นหนทางที่น่าจะดีกว่า

"การลากรถ" นั้น เป็นวิธีหนึ่งที่เราหลายคนมักจะทำประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการนำรถไปยังที่ปลอดภัยชั่วคราวหรือเพื่อเดินทางไปพบช่างผู้ชำนาญการ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นไม่ให้ต้องนั่งตบยุงท่ามกลางความเปลี่ยวของถนน
 ตามปกติแล้วพวกเราคนเมืองหลวงมักไม่ค่อยได้ลากรถกันมากนัก เนื่องจากความสะดวกที่ถูลู่ถูกังไปทั้งยังงั้นไม่นานก็อาจจะเจออู่ที่เป็นงานหรือไม่ก็มีรถยกบริการที่พร้อมให้คุณเรียกใช้สะดวก แต่ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่เดินทางค่อนข้างบ่อยและรถแม้จะมีสภาพสมบูรณ์แต่ก็เริ่มอายุมาก คุณเองควรเรียนรู้วิธีลากรถด้วยตัวเองเอาไว้ ที่ง่ายๆ ไม่ยากมากมายนัก
 1.อุปกรณ์ต้องพร้อม ข้อสำคัญของการลากรถนั้นไม่ได้อยู่ที่วิธีแต่มันขึ้นอยู่กับความพร้อมของตัวเอง ที่การลากรถนั้นจำเป็นต้องใช้ สิ่งของที่จะทำให้รถ 2 คันสามารถพ่วงเข้าหากันไปด้วยกันมาด้วยกัน ซึ่ง ปัจจุบันที่นิยมมีเชือก สลิง และ แป๊บลาก แต่เราอยากแนะนำให้ใช้สลิงดีกว่า เนื่องจากเชือกขาดง่าย ส่วนแป๊ปเหล็กนั้น สามารถสร้างความเสียหายให้ตัวรถได้ถ้าไม่ชำนาญการ
 2.หาตัวช่วย เมื่อพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาที่คุณต้องหาคนช่วยเหลือ โดยเฉพาะเมื่อทางออกที่ควรจะเลือกคือรถกระบะ เนื่องจากรถกระบะมีแรงบิดในรอบต่ำที่ดีจากเครื่องยนต์ดีเซลทำให้ลากได้ง่ายกว่า รถเก๋งด้วยกัน ส่วนในเมืองนั้นแท็กซี่ก็พอจัดให้ได้ แต่แนะว่าต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

3.ได้เวลาลุย เมื่อคุณได้ทั้ง 2 อย่างครบแล้ว ก็ได้เวลาพ่วงรถคุณกับตัวช่วยเข้าด้วย ตามปกติแล้ว รถปัจจุบันแทบทุกรุ่นจะมีจุดลากมาให้ซึ่งจะเป็นห่วงเล็กๆ ที่ยึดเข้ากับแชสซีโดยตรงทำให้มีความแข็งแรงและไม่สร้างความเสียหายต่อตัวรถ แต่หากไม่มีให้ยึดกับจุดใดก็ได้ที่เป็นแชสซีของรถหรือไม่ก็ต้องเป็นชิ้นส่วนที่ติดกับโครงสร้างหลักโดยตรง
 4.รู้วิธีขับข้อนี้สำคัญสุด การลากรถอาจจะฟังเหมือนง่ายแต่เอาเข้าจริงมันกลับทำยากกว่าที่พูด เพราะการกระทำแบบนี้ถือเป็นการเสี่ยงและจริงก็ไม่ค่อยอยากแนะนำแต่อย่างบอกบางครั้งเราเดินทางมันก็ไม่มีทางเลือกมากมายอะไรนัก
 การขับรถเราโดยที่ถูกลากอยู่นั้นถือเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเราต้องจับจังหวะให้ได้ โดยเฉพาะการใช้เชือกหรือสลิงจะลำบากกว่าใช้แป๊ปเล็กน้อย เพราะต้องคอยกะระยะว่าเมื่อไรเชือกตึงหรือกำลังผ่อน หลักการง่ายๆคือให้สังเกตระดับไฟหน้ารถเรากับคันที่ลากว่าเราความชิดมากแค่ไหน แต่จำไว้ว่าอย่าใกล้มากขนาดนั้น เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถหยุดได้ทัน และอีกเรืองที่สำคัญ หากใช้เชือก/สลิงอย่าให้เกิดการกระตุกแรงๆ เพราะมันอาจขาดได้แม้จะมีความหนาแน่นพอที่จะลากรถได้ก็ตาม
 ทั้งนี้หากคุณมีปัญหากลางทางและไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนักทางที่ดี ควรจะโทรหาหน่วยงานฉุกเฉิน/ตำรวจในพื้นที่เพื่อประสานงานรถยกไปยังอู่ที่ใกล้เคียงก่อนเพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่หากปัญหาหนักจริงควรกลับมาซ่อมที่อู่ซึ่ง เราสามารถวางใจได้