รถยนต์สมัยใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นในปัจจุบันนี้ จะมีอุปกรณ์ต่างๆ มากมายกว่าแต่ก่อนมากไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี่ที่ไฮเทค มีระบบคอมพิวเตอร์ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันและหนึ่งในนั้นที่จะขาดเสียมิได้นั่น ก็คือระบบที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือระบบป้องกันการโจรกรรมของรถยนต์ ระบบดังกล่าวจะมีหรือไม่มีนั้นจะขึ้นอยู่กับเกรดและรุ่นของรถยนต์ และระบบทีกล่าวถึงคือ immobilizer หรือโค๊ดที่อยู่ในตัวของกุญแจนั่นเอง
ไม่ว่าจะมีลักษณะของตัวกุญแจที่มีชิพแยกออกจากตัวรีโมท หรือที่รวมอยู่เป็นชุดเดียวกันก็ตาม การทำงานของระบบจะเหมือนกัน อุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกติดตั้งมาจากโรงงานเลย (มีการเซ็ทเข้ากับตัวรถยนต์) ตราบใดที่รถยนต์พบว่าโค๊ดตรงกับที่ได้ถูกบันทึกไว้ก็จะสามารถติดเครื่องยนต์ ได้ แต่ถ้าหากว่าโค๊ดไม่ตรงกัน ทำอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะติดเครื่องยนต์ได้
ก่อนที่จะเลือกใช้รถยนต์ที่มีระบบดังกล่าวแน่นอนที่สุดทางพนักงานขายคง ได้อธิบายให้รับทราบในระดับหนึ่งแล้ว หรือได้ศึกษาด้วยตนเองในระดับหนึ่งอะไรในทำนองอย่างนี้เป็นต้น ว่าระบบเป็นอย่างไร มีประโยชน์เช่นไร การทำงานเป็นอย่างไร เป็นต้น จริงอยู่ว่าไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีที่ดีขนาดไหนในรถยนต์ พวกหัวขโมยก็ยังหาวิธีที่กระทำได้ทุกครั้งไป
รายละเอียดต่างๆ ของรถยนต์นั้นรวมถึงระบบที่มีชิพอยู่ในตัวกุญแจ ได้ถูกระบุอยู่ในคู่มือการใช้รถอยู่แล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่อยากจะขอเสริมให้ทราบ เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ท่านผู้อ่านทุกท่านได้ใช้รถยนต์ ดังนี้ครับ
1. ไม่ควรให้กุญแจที่เป็น master แก่คนที่ไม่น่าไว้วางใจ
2. ควรเก็บกุญแจ master ไว้ในที่ที่ปลอดภัยเพราะดอกที่เป็น master สามารถออกคำสั่งต่างๆ ได้ในรถยนต์ของท่าน
3. หากมีการสูญหายของกุญแจดอกใดดอกหนึ่งให้รีบติดต่อศูนย์บริการทันที และนำกุญแจที่เหลือพร้อมกับรถยนต์ไปยังศูนย์บริการได้ทั่วประเทศ เพื่อจัดการกับระบบ
4. ในบางรุ่นตัวกุญแจอาจจะแยกกับตัวรีโมท ก็ให้นำมายังศูนย์บริการทั้งหมดในคราวเดียวกัน เช่นกัน
5. ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ถ้าหากว่ากุญแจรถยนต์ของท่านมีการสูญหายทั้งหมดท่านจะต้องมีการจัดการทั้ง ระบบไม่ว่าจะเป็น มีการเปลี่ยนกุญแจรอบคัน กล่องควบคุมต่างๆ และอื่นๆ นั่นก็หมายความว่า ท่านจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงอย่างมาก (ขอย้ำ) ดังนั้น ห้ามทำกุญแจที่เป็นดอก master สูญหายอย่างเด็ดขาดครับ
อนึ่งข้อมูลที่ได้ชี้แจงมาแล้วนั้นได้มีการสูญหายกันมาพอสมควรแล้วครับ ดังนั้นอย่าให้กุญแจ (หลัก) สูญหาย