วิธีเช็คแบงก์ปลอม สำหรับแบงก์ 500 ออกใหม่

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsI

     ธนาคารแห่งประเทศไทยออกธนบัตรชนิดราคา 500 บาท ใหม่ (แบบ 16 ) เริ่มใช้ในวันที่ 12 พ.ค. 57 โดยเน้นออกแบบให้รูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย มีความเป็นสากล และเป็นแบบที่นำเทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงมาใช้เพิ่มมากขึ้น เราจึงสามารถสังเกตวิธีดูธนบัตรได้ดังนี้ 


จุดสังเกตหลัก 
       
       1. ลายพิมพ์เส้นนูน ตัวอักษรและตัวเลขแจ้งชนิดราคา คำว่า “รัฐบาลไทย” จะรู้สึกสะดุดเมื่อสัมผัสด้วยปลายนิ้วมือ

 


 


 2. ภาพซ้อนทับ ตัวเลข “500” พิมพ์แยกบางส่วนไว้บนด้านหน้าในตำแหน่งที่ต่อเนื่องกัน เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่าง จะมองเห็นเป็นตัวเลข “500”เป็นภาพที่สมบูรณ์

 


 


 3. ลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์และตัวเลข “๕๐๐” มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนทั้งสองด้านเมื่อยกส่องกับแสงสว่าง

 


 


จุดสังเกตใหม่ 
       
       4. หมึกพิมพ์พิเศษสลับสี พร้อมตัวเลขแฝง เมื่อพลิกธนบัตรไปมา ลายประดิษฐ์สีทองจะเปลี่ยนสลับเป็นสีเขียว และเมื่อเอียงเข้าหาแสงสว่าง โดยมองผ่านจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตรจะเห็นตัวเลข“500” ที่ซ่อนไว้

 


 


 5. หมึกพิมพ์พิเศษสีเหลือบเหลือง เมื่อพลิกเปลี่ยนมุมมอง จะเห็นแถวตัวเลขอารบิก "500" และแถวตัวเลขไทย "๕๐๐" สลับกับลายประจำยามเป็นสีเหลือบเหลือง

 


 


 6. แถบฟอยล์ 3 มิติ ผนึกบนเนื้อกระดาษตามแนวตั้ง ภายในแถบมีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา5 ธันวาคม 2550 อยู่เหนือตัวเลขอารบิก“500” เมื่อพลิกเอียงแถบฟอยล์จะเปลี่ยนสีและสะท้อนแสงวาววับและตรงกลางตราสัญลักษณ์ฯ จะมองเห็นตัวเลขอารบิก“500” เปลี่ยนเป็นตัวเลขไทย “๕๐๐”

 


 


 7. แถบสี่เหลี่ยมเคลื่อนไหวสลับสี ฝังในเนื้อกระดาษตามแนวตั้ง เมื่อพลิกธนบัตรขึ้นลงจะเห็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีทองเคลื่อนไหวไปมาระหว่างด้านซ้ายและด้านขวาและเปลี่ยนสลับจากสีทองเป็นสีเขียว ภายในแถบมีข้อความ “500 บาท” ขนาดเล็ก สามารถอ่านได้ทั้งสองด้านเมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่าง

 


 


จุดสังเกตสำหรับผู้มีความบกพร่องทางสายตา
       
       8. “ลายพิมพ์เส้นนูน” ใต้ตัวเลขแจ้งชนิดราคามีเส้นนูนแนวนอนเรียงลดหลั่นกันลงมา นำไปสู่ลายพิมพ์เส้นนูนรูปดอกไม้สีม่วงเข้ม 3 ดอก แทนสัญลักษณ์อักษรเบรลล์ “F” ที่ย่อจาก Five Hundred

แหล่งข้อมูล http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000052688