ทำไม? กินสับปะรดแล้วถึง “แสบลิ้น”

สับปะรด สารอาหารมากมาย


นอกจากสับปะรดจะมีรสชาติดีถูกใจใครหลายคนแล้ว ยังมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายมากมายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 กรดโฟลิค แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานีส เหล็ก และแมกนีเซียมอีกด้วย


 


กินสับปะรดแล้ว “แสบลิ้น”?


สาเหตุที่เรากินสับปะรดเข้าไปแล้ว รู้สึกแสบๆ คันๆ ที่ลิ้น ก็เป็นเพราะว่า สัปปะรดมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า “บรอมีเลน” ซึ่งมีคุณสมบัติย่อยสลายโปรตีน ไม่ให้โปรตีนตกค้างในลำไส้ และที่ลิ้นของเราก็มีโปรตีนตามธรรมชาติเคลือบอยู่ ดังนั้นเอนไซม์บรอมีเลนจึงทำการย่อยโปรตีนบนลิ้นของเรานั่นเอง


แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะเมื่อเราหยุดทานสับปะรดไปสักพัก ลิ้นของเราก็จะสร้างโปรตีนขึ้นมาเคลือบผิวลิ้นใหม่ ทำให้อาการแสบๆ คัน ที่ลิ้นหายไปได้เองในชั่วเวลาสั้นๆ ค่ะ


 


เคล็ดลับกินสับปะรดอย่างไรไม่ให้แสบลิ้น


นำสับปะรดหั่นชิ้นไปแช่น้ำเกลืออ่อนๆ ราว 2-3 นาทีก่อนทาน หรืออาจจะจิ้มเกลือทานสดๆ โดยตรงเลยก็ได้ (แต่อาจได้ผลดีไม่เท่าการแช่ลงไปในน้ำเกลือ) แค่นี้ก็จะช่วยลดอาการแสบคันที่ลิ้นขณะกินสับปะรดได้แล้วล่ะค่ะ


เกลือจะเข้าไปช่วยลดความเข้มข้นของเอนไซม์ บรอมีเลน ที่ว่า ทำให้เอนไซม์ดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง


แต่ทว่า... ใครที่อยากทานสับปะรดเพื่อช่วยย่อยอาหาร อาจจะทานแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพราะจะทำให้สับปะรดย่อยอาหารได้ไม่เต็มที่เหมือนเคยเช่นกัน


 


สุดท้ายที่อยากฝากไว้คือ หากอยากทานสับปะรดเพื่อสุขภาพ อย่าเลือกทานสับปะรดในกระป๋องจะดีกว่าค่ะ เพราะถึงแม้รสชาติจะยังหวานฉ่ำชื่นใจดีอยู่ แต่สับปะรดในกระป๋องจะขาดวิตามินดีๆ ไปมาก รวมถึงเอนไซม์บรอมีเลนที่จะช่วยย่อยโปรตีนด้วยค่ะ


 


ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ Did You Know? คุณรู้หรือไม่?
ภาพประกอบจาก 
istockphoto