เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัวอัครยนตรกรรมคลาสสิก Speed Six ใหม่ ซึ่งถือเป็นการผลิตขึ้นใหม่ครั้งแรกในรอบ 93 ปี ณ งาน Goodwood Festival of Speed ในปีนี้ โดย Speed Six ถือเป็นรถแข่งในตำนานของเบนท์ลีย์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และถือเป็นหนึ่งในอัครยนตรกรรมที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ สำหรับ Speed Six รุ่นต้นแบบ Car Zero จะถูกใช้ในกระบวนการพัฒนาซึ่งประกอบไปด้วยการทดสอบความทนทานในสภาพแวดล้อมจริงและการทดสอบในสนามแข่ง ก่อนการผลิตตามคำสั่งของลูกค้าจำนวน 12 คัน ซึ่งโควต้าทั้งหมดได้ถูกครอบครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Speed Six คือรถแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ด้วยพละกำลังจากขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 6½ ลิตร โดยได้คว้าแชมป์ Le Mans ในปี 2472 และ 2473 จากฝีมือของนักแข่ง Woolf Barnato, Sir Henry 'Tim' Birkin และ Glen Kidston
Speed Six ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยตัวแบบเดียวกันและใช้กระบวนการเดียวกับรถต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลในการผลิตรถแข่งซีรีส์นี้ โดย Speed Six เป็นอัครยนตรกรรมรุ่นที่ 2 หลังจากรุ่น Blower ซึ่งเป็นอัครยนตรกรรมรุ่นแรกในช่วงยุคก่อนสงครามโลกที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ แผนกออกแบบเฉพาะตัวอันโด่งดังของเบนท์ลีย์
เบนท์ลีย์ มอเตอร์สได้ทำการวิจัยอย่างเข้มข้นเพื่อให้การรังสรรค์ Speed Six สมบูรณ์แบบที่สุดด้วยการเน้นข้อมูลจำเพาะและการตั้งค่าแบบรถแข่งในสมัยการแข่งขัน เลอ ม็อง ปี 2473 นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาพวาดต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งกว่า 80% ของภาพวาดต้นฉบับถูกค้นพบที่มูลนิธิ WO Bentley Memorial Foundation โดยมีการใช้ภาพวาดและเสริมด้วยบันทึกของช่างเครื่องยุคก่อนที่ได้ให้รายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงระหว่างช่วงการแข่งขันในปี 2472 และ 2473 ควบคู่ไปกับข้อมูลจาก Speed Six ที่ถูกเก็บรักษาใน Bentley Heritage Collection และรถแข่ง เลอ ม็อง ในปี 2473 หรือที่รู้จักกันในนาม Old Number 3
สำหรับชิ้นส่วนใหม่มากกว่า 600 ชิ้นได้ถูกนำมาประกอบเป็นเครื่องยนต์ขนาด 6 สูบ ความจุ 6 ลิตรครึ่ง โดยการทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงเครื่องยนต์รุ่นแรกที่ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 205 แรงม้าในการแข่งขันปี 2473
วัสดุแท้จำนวนมากที่ใช้ในการรังสรรค์รุ่น Blower ได้ถูกนำมาใช้กับรุ่น Speed Six โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนที่ได้รับการตัดแต่งจำนวนหนึ่ง โดยทีมมูลินเนอร์ได้พิจารณาหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิพิธภัณฑ์ National Motor Museum ในเมืองโบลิเออร์ มลรัฐแฮมป์เชียร์เพื่อนำเสนอเฉดสีภายนอก Parsons 5 เฉดสี โดย Speed Six รุ่นต้นแบบ Car Zero ได้รังสรรค์เสร็จสิ้นในเฉดสีเขียว Parsons Napier Green พร้อมการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยหนังเฉดสีน้ำตาล Tan
Speed Six รุ่นต้นแบบ Car Zero ถูกสร้างขึ้นในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาโดยทีมช่างฝีมือและผู้เชี่ยวชาญจากเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ที่มีทักษะพิเศษ เฉกเช่นเดียวกับการรังสรรค์รุ่น Blower แรงผลักดันในการพัฒนารุ่น Speed Six คือการพัฒนาและการรักษาทักษะการออกแบบตัวถังรถยนต์ทั้งแบบสมัยใหม่และแบบคลาสสิก และการได้เห็นช่างฝีมือที่มีประสบการณ์มากว่าหลายทศวรรษทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่เพื่อถ่ายทอดทักษะ โดยอัครยนตรกรรมที่ประกอบเสร็จสิ้นจะถือเป็นผลงานศิลปะจากการรังสรรค์ ณ ศูนย์การออกแบบ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ ในโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์
สำหรับในอีก 6 เดือนข้างหน้า ลูกค้า Speed Six จะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับทีมนักออกแบบในเรื่องของรายละเอียดการรังสรรค์แบบเฉพาะตัว โดยลูกค้าแต่ละรายจะได้รับบริการเฉพาะบุคคลสำหรับรถที่กำลังพัฒนาคันที่สองในชื่อ Speed Six Factory Works เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
กระบวนการทดสอบสำหรับ Speed Six Car Zero เทียบได้กับกระบวนการของ Blower Car Zero ซึ่งจะรวมการทดสอบสะสมไมล์ในสภาพแวดล้อมจริงและการจำลองการแข่งขันสองรายการในสนามแข่ง
Speed Six Car Zero ซึ่งจะจัดแสดงในงาน Goodwood Festival of Speed ปีนี้จะมีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษที่จะไม่มีในรถยนต์ของลูกค้าเพื่อรองรับกระบวนการทดสอบและการบันทึกข้อมูลด้านต่างๆ ในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้า
โดยหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการผลิต Speed Six Car Zero จะต้องผ่านกระบวนการทดสอบความทนทานในสภาพแวดล้อมจริง โดยขั้นตอนการทดสอบได้รับการคิดค้นขึ้นเทียบเท่ากับการขับขี่บนสภาพถนนจริงกว่า 35,000 กิโลเมตรผ่านการขับขี่ในสนามแข่งกว่า 8,000 กิโลเมตร ซึ่งระยะเวลาและความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะเป็นตัวชี้วัดการทำงานและความทนทานภายใต้สภาวะต่างๆที่ท้าทายที่สุดเพื่อความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพรถยนต์ลูกค้าในอนาคต
Speed Six ของลูกค้าคันแรกจะเริ่มต้นสายการผลิตในเดือนตุลาคมปีนี้ โดยคำสั่งการผลิตของลูกค้าจำนวน 12 คันมีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งรถยนต์แต่ละคันจะใช้ระยะเวลาการผลิตประมาณ 10 เดือน