เตรียมพบกับ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ในปี 2569

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศความพร้อมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อส่งมอบสมรรถนะการใช้งานที่เหนือระดับไปอีกขั้นสำหรับลูกค้าที่เกิดมาแกร่งอย่างแท้จริง โดยพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลีย ปี พ.ศ. 2569


 


ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ ถือกำเนิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้าฟลีต และผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ชั้นนำทั่วออสเตรเลีย ในการพัฒนารถกระบะขนาดกลางรุ่นใหม่ที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่ารถกระบะขนาดกลางทั่วไป


 


ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นทั้งด้านมวลรวมของรถ หรือน้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (Gross Vehicle Mass - GVM) น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (Gross Combined Mass - GCM) รวมถึงความสามารถในการลากจูง และสมรรถนะออฟโรดที่เหนือระดับ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่มลูกค้า อาทิ หน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน เกษตรกร ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณูปโภค ป่าไม้ เหมืองแร่ ช่างเทคนิคด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเพื่อการทำงานด้านอื่นๆ


 


“ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ ผสานความเป็นเลิศระหว่างฟีเจอร์อัจฉริยะและระบบความปลอดภัยขั้นสูงจากฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีมาแล้วหลายรางวัลในหลายประเทศ มาพร้อมกับสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานหนัก เพื่อนำเสนอรถกระบะที่ลูกค้าต้องการแต่ยังไม่มีรถรุ่นใดในตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ ออกแบบให้มีความยืดหยุ่น พร้อมสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานหนักที่ลูกค้าต้องการ  และสร้างความมั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพจากโรงงานฟอร์ด" ซอนดรา ซัตตัน ฟุง ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์รถกระบะระดับโลก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว


 


ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ รุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาโดยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตลาดนานาชาติของฟอร์ด นำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,500 คน ทั้งนักออกแบบ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากประเทศออสเตรเลีย โดยจะผลิตที่โรงงานในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายในตลาดโลก


 


เมื่อเทียบกับรถกระบะขนาดกลางทั่วไป ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ มอบความสามารถที่เหนือกว่าหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น



  • ลากจูงได้มากขึ้น: รองรับการลากจูงสูงสุด 4,500 กิโลกรัม (เมื่อติดตั้งเบรกที่รถพ่วง)

  • บรรทุกได้มากขึ้น: น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (GVM) สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม

  • ให้คุณ ‘ทำได้’ มากขึ้น: น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (GCM) สูงสุดถึง 8,000 กิโลกรัม