กระทรวงพลังงาน จับมือ “ปตท.- กฟผ.” ดัน “ไทย” ก้าวข้ามความท้าทายด้านพลังงาน ยก “ฟิวเจอร์ เอเนอร์ยี่ เอเชีย” และ “ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย 2024” ปัจจัยเร่งทรานส์ฟอร์มพลังงานสะอาด 15-17 พ.ค.นี้! ที่ ศูนย์ฯ สิริกิติ์

www.rodweekly/com


บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC การเงินแข็งแกร่งชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 นี้ มูลค่า 485.20 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ สามารถจัดการการใช้เงินและสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) CMC เปิดเผยว่า CMC บริษัทฯ ได้จ่ายดอกเบี้ยและได้ชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เต็มมูลค่า 485.20 ล้านบาท ตอกย้ำว่าบริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการทำธุรกิจและใช้เป็นเงินหมุนเวียน พร้อมให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัททุกราย ที่ผ่านมาการระดมเงินทุน บริษัทได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแก่บริษัท


ในปี 2567 มีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะ เคลฟ ริเวอร์ไลน์ เจ้าพระยา - วงศ์สว่าง(The Clev Riverline Chaophraya – Wongsawang), โครงการไซบิค รัชดา 32 (Cybiq Ratchada 32) และซีรอคโค บางนา 36 (Cerocco-Bangna 36) มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 3,700 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ ชาโตว์ วิลเลจ เวสต์เกต - บ้านกล้วย (Chateau Village Westgate - Baan Kluay) มูลค่า 400 ล้านบาท และเดินหน้าพัฒนา New Project รวมถึง New Business ที่จะสามารถสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) ออกมาเป็นรูปธรรมในครึ่งปีหลังพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต สะท้อนแหล่งที่มาของรายได้และการวางแผนการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ


ดร.สมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานประชุมและนิทรรศการ Future Energy Asia & Future Mobility Asia 2024 โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะมุ่งส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคเอเชีย ผ่านการหารือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนการนำเสนอความก้าวหน้าของนวัตกรรมพลังงานระหว่าง ประเทศผู้นำด้านพลังงานและผู้เชี่ยวชาญ  ในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานมุ่งเน้นการดำเนินนโยบายด้านพลังงาน การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 ตลอดจนเร่งผลักดันให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามความท้าทายด้านพลังงานทั้ง 3 ประการ (Energy Trilemma) ซึ่งประกอบไปด้วย การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การเข้าถึงพลังงานในราคาที่เหมาะสม และพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

มร.คริสโตเฟอร์ ฮัดสัน ประธานบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ โกลบอลล์ เอนเนอร์ยี กล่าวเสริมว่า “งานประชุมและนิทรรศการ Future Energy Asia & Future Mobility Asia 2024 ที่สุดของงานประชุมด้านพลังงานและนวัตกรรมยานยนต์แห่งภูมิภาคเอเชีย จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘ทางออกของเอเชียต่อความท้าทายด้านพลังงานของโลก’ (Asia's Solution to the World's Energy Challenges) ด้วยเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย เทคโนโลยี และการลงทุนด้านพลังงาน สู่การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและความยั่งยืนในระดับประเทศและภูมิภาค โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 22,000 คน ผู้ร่วมประชุม 2,500 คน วิทยากร 600 คน และบริษัท 350 แห่งจากกว่า 70 ประเทศ ทั้งนี้ งานดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำของเอเชียในการเจรจาด้านพลังงานระดับโลก ส่งเสริมความร่วมมือที่อาจจะกำหนดอนาคตของการผลิตและการใช้พลังงาน ตลอดจนตอกย้ำบทบาทสำคัญของเอเชียในการขับเคลื่อนโลกสู่เส้นทางพลังงานที่สะอาดขึ้น เชื่อถือได้มากขึ้น และยั่งยืน”


                  โดยเราได้เล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุมเชิงกลยุทธ์ดังกล่าวเพื่ออภิปรายถึงนโยบายการพัฒนาในระดับโลก จึงได้จัดงานประชุมผู้กำกับดูแลพลังงานประจำปี (ERRA) ครั้งที่ 21 ขึ้น โดยภายในงานประกอบด้วยเวทีฟอรัมผู้กำหนดนโยบายพลังงาน (ERF) ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทั้งนี้ กกพ. ในฐานะผู้นำร่องการใช้พลังงานหมุนเวียนและ


โซลูชันด้านความยั่งยืนทางพลังงาน จะเป็นผู้สนับสนุนการประชุม ERRA ในครั้งนี้ ด้วยการส่งสมาชิกเข้าร่วมเวทีการประชุม ERC Forum สำหรับหน่วยงานกำกับดูแลจากภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยเน้นย้ำถึงการพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในภูมิภาค  


สำหรับงาน Future Energy Asia & Future Mobility Asia 2024 จัดขึ้นโดยกลุ่ม ปตท., กฟผ. และ บริษัท ดีเอ็มจี อีเวนท์ จำกัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนหลัก ADNOC และ ปตท.สผ. ในการจัดแสดงนวัตกรรมที่ก้าวล้ำและกรอบนโยบายที่จะเป็นแนวทางในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ อย่างไรก็ดี การประชุมในครั้งนี้มิได้เป็นเพียงการอภิปรายเท่านั้น แต่ยังสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญสู่อนาคตพลังงานที่ยั่งยืน

นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านพลังงานของไทยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ขับเคลื่อนอนาคตของพลังงานสู่ความยั่งยืนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก กับการก้าวไปอีกขั้นในเรื่องการเพิ่มความหลากหลายไปสู่พลังงานหมุนเวียน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งเรามุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและสร้างความก้าวหน้าในการวิจัยในสาขาที่สำคัญเหล่านี้ ผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเล็งเห็นการจัดเก็บพลังงาน การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของระบบพลังงาน บทบาทที่ก้าวหน้าของ LNG (Energy Transition in LNG) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผสมผสานพลังงานในอนาคต และการเพิ่มขึ้นของยานพาหนะไฟฟ้าที่ส่งสัญญาณถึงยุคใหม่ของการเติบโตและเพิ่มโอกาสสำหรับปตท. และพันธมิตรของเรา การพัฒนาเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่กระแส แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน ดังนั้น นิทรรศการและงานประชุม Future Energy Asia & Future Mobility Asia 2024 ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญของทั้ง ภูมิภาคอาเซียนในการบูรณาการความร่วมมือในทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนอนาคตเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานไปพร้อมกัน


 


          นายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า  ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่มีเป้าหมายหลักในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และ เป็นผู้นำในการบูรณาการเทคโนโลยีล้ำสมัยและทรัพยากรหมุนเวียน เพื่อเปลี่ยนแปลงกรอบการทำงานด้านพลังงานของเอเชีย การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญในการแบ่งปันความก้าวหน้าและความสำเร็จในการทำงานร่วมกัน โดยเน้นย้ำถึงบทบาทเชิงรุกของเอเชียในการตอบสนองความต้องการพลังงานทั่วโลกและเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความผันผวนของวงการพลังงานที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์พลังงานโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานนี้ จึงมีการจัดหาพลังงานสีเขียวควบคู่ไปกับการเตรียมแหล่งพลังงานทดแทนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพด้านพลังงาน ความมั่นคง และความยั่งยืนด้านพลังงานในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาน การวิจัยและพัฒนาพลังงาน จึงมีการขยายความร่วมมือเพื่อปูทางพลังงานสีเขียวในอนาคต การเข้าร่วมประชุมสุดยอดครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญของเราในการการมีส่วนร่วมกำหนดเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเอเชียยังคงเป็นสัญญาณแห่งความก้าวหน้าและเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในการร่วมกันแก้ปัญหาความท้าทายด้านพลังงานของโลก


            ทั้งนี้ นิทรรศการและงานประชุม Future Energy Asia & Future Mobility Asia 2024: Asia's Solution to the World's Energy Challenges จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ - 17 พฤษภาคม 2567 ณ Exhibition Hall 1-3 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดของงานเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์  www.futureenergyasia.com, www.future-mobility.com และช่องทางโซเชียลมีเดีย @futureenergyasia