สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สังเวียนความเร็วระดับโลกของคนไทย เอาใจคอความเร็ว 4 ล้อ ด้วยการดึงศึกซูเปอร์คาร์ระดับโลกอย่าง "จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย" คัมแบ็กจัดการแข่งขันในเมืองไทยในรอบ 3 ปี โดยจะระเบิดความมันส์ระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคมนี้ นักแข่งแถวหน้ากว่า 60 คน จากทีมระดับเวิลด์คลาสมากกว่า 32 ทีมตบเท้าล่าชัยชนะ พร้อมยิงสดผ่านทรูวิชันส์เสิร์ฟประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มขั้น
การแข่งขันรถสปอร์ต "ซูเปอร์คาร์" ระดับโลกรายการ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023 (GT World Challenge Asia) ยืนยันอย่างเป็นทางการเปิดฉากดวลความเร็วสนามแรกที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นอีกหนึ่งรายการมอเตอร์สปอร์ตที่แฟนความเร็วชาวไทยรอคอยอย่างมาก
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า "หลังจากที่ไม่ได้จัดการแข่งขันรายการนี้ในช่วงที่มีการระบาดของ โควิด-19 เราก็หารือกับฝ่ายจัดการแข่งขันของ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย มาอย่างต่อเนื่อง ถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมงานกันอีกครั้ง โดยตลอดช่วงที่ผ่านมาเราพยายามอย่างหนักที่จะทำให้เกมความเร็ว 4 ล้อรายการนี้เกิดขึ้นในเมืองไทยให้ได้"
"ตอนนี้ผมยินดีที่จะบอกแฟนความเร็วชาวไทยว่า เราจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ครั้งแรกในรอบ 3 ปี และ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จะถูกบรรจุเป็นสนามแรกของฤดูกาล 2023 นั่นหมายความว่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ตื่นเต้นอย่างมากของการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งมีทีมแข่งดังๆ จากทั่วโลกกว่า 32 ทีม และนักแข่งชั้นนำจากหลายทวีปมากกว่า 60 คน ภายใต้รถแข่งซูเปอร์คาร์สุดหรูถึง 19 แบรนด์ เช่น MERCEDES AMG, FERRARI 488, PORSCHE 911, LAMBORGHINI HURACAN, McLAREN 7205, TOYOTA GR SUPRA, HONDA NSX พร้อมลงฟาดฟัน เพื่อล่าชัยชนะต่อหน้าทุกคนในประเทศไทย"
"ผมขอเชิญชวนแฟนๆ ชาวไทยที่ชื่นชอบกีฬาความเร็ว ชมการแข่งขันในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าทุกท่านจะได้รับประสบการณ์สุดมันส์ในแบบของมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกเต็มรูปแบบอย่างแน่นอน นอกจากนี้จะยังได้ลุ้นให้นักแข่งชาวไทยขึ้นโพเดียมในบ้านเกิดอีกด้วย" นายตนัยศิริ กล่าว
จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023 เป็นการแข่งขันที่มีรูปแบบเดียวกันถึง 4 ทวีป ภายใต้รายการแม่อย่าง จีที เวิลด์ ได้แก่ อเมริกา, ยุโรป, ออสเตรเลีย และ เอเชีย ที่รวมเอารถแข่งซูเปอร์คาร์ในคลาสจีที3 และ จีที4 ไว้ในเรซเดียวกัน
ชัยชนะของ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย จะไม่ได้มาจากความสามารถของนักแข่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยทีมเวิร์คที่ลงตัวในการทำงานพิท การวางแผนเข้าพิทในช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงการผสมผสานที่ลงตัวของนักแข่งทั้ง 2 คน ที่จะช่วยให้ทีมไปสู่ความสำเร็จได้
ขณะเดียวกัน จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ยังได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วทั้งเอเชีย และชาวจีน โดยมีแพล็ตฟอร์มการถ่ายทอดสดไปสู่สายตาแฟนความเร็วทั่วโลก ซึ่งมีผู้ติดตามผ่านโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 48% ในช่วงปีที่ผ่านมา มียอดเข้าชมผ่านการสตรีมมิ่งกว่า 2,408,900 วิว และยอดผู้ชมจากทุกแพล็ตฟอร์มมากถึง 21,767,100 คน
สำหรับ จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023 จะมีการทดสอบรถแข่งของทุกทีมในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ก่อนเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันสนามแรกอย่างเป็นทางการ โดยจะซ้อมในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม และจับเวลารอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พร้อมกับดวลความเร็วเรซแรกในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จากนั้นจะดวลความเร็วเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้
เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2566 Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://www.allticket.com/event/GTWorldChallengeAsia2023
บัตร VIP 1 วัน ราคา 2,000 บาท 2 วัน ราคา 3,000 บาท และ บัตร GRANDSTAND 1 วัน ราคา 200 บาท 2 วัน ราคา 300 บาท
พร้อมกิจกรรมเสริมสุดพิเศษ เพียงซื้อบัตรชมการแข่งขัน Asia Road Racing, OR BRIC Superbike และ GT World แล้วสแกน QR Code ณ จุดเช็คอิน เพื่อรับคะแนนสะสม 1 คะแนนต่อ 1 รายการแข่งขัน เมื่อสะสมครบ 6 แต้ม ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล VIP Lounge โค้ง 12 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ชม MotoGP 2023 แบบ Exclusive จำนวน 15 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท มูลค่ารวม 1,200,000 บาท กับกิจกรรม “Chang Friend Club Passport”
ถ่ายทอดสดทาง ทรู วิชั่นส์ ในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 สำหรับเรซ 1 ในเวลา 15.30-16.35 น. ส่วน เรซที่ 2 จะถ่ายทอดสดในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม เวลา 11.00-12.05 น.