ในช่วงปีนั้น รถยนต์ปิกอัพแบบเอนกประสงค์ยังเป็นที่รู้จักกันไม่มากนัก ส่วนใหญ่ปิกอัพจากค่ายบริษัทแม่จะถูกบริษัทผู้รับดัดแปลงอย่าง ไทยรุ่ง เป็นผู้จัดการแปลงโฉมนำมาจำหน่ายตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ แต่พอเจ้าโตโยต้าสปอร์ตไรเดอร์ออกมาอวดโฉมแรกในปี 1998 แล้ว อาการฮือฮาและความนิยมเจ้า PPV ก็มาขึ้น จนกล่าวได้ว่า รุ่นแรกของความนิยม เจ้าฟอร์จูนเนอร์ ในปัจจุบันก็มีรากฐานมาจาก สปอร์ตไรเดอร์นี่แหละครับ

สปอร์ตไรเดอร์มีการแบ่งรุ่นมากมาย ในยุคแรกช่วงปี 98-02 นั้น เป็นเครื่อง 5L แบบขับสองล้อ และ 5L-E แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งสองตัวมาแบบเครื่องยนต์ขนาด 2986 cc แรงม้าขำในตัวขับสี่ประมาณ 105 แรงม้า (PS)จนปลายยุคแรก ปรับเครื่องยนต์มาเป็นตระกูล D4D ในรหัส 1KDและพอมาถึงช่วงปี 2002 เจ้าสปอร์ตไรเดอร์มีการปรับโฉมใหม่ ในส่วนกันชนที่ดูดันขึ้น แลดูภูมิฐานมากขึ้นและปรับไฟหน้า ไฟท้ายใหม่หมด ที่สำคัญเอาเครื่องยนต์1KD-FTV I4 DOHC126 แรงม้ามาใช้งาน แถมมีบล็อก 2.5 L (2,494 cc) รหัส 2KD-FTV I4 DOHC102 แรงม้ามาให้ใช้ในตัวขับสองล้ออีกด้วย

มาถึง ณ ตอนนี้แม้อายุอานามของเจ้าสปอร์ตไรเดอร์จะอยู่ที่ 10 ปีกว่าๆแล้วก็ตาม แต่ด้วยรูปลักษณ์และรูปทรงและลักษณะการใช้งานที่เอนกประสงค์ จึงยังคงมีคนต้องการอยู่ สำหรับราคาค่าตัวในเครื่อง 5L เวอร์ชั่นแรกนั้น ไม่แพงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับตัวรถ ที่ประมาณ สองแสนกว่า ส่วนตัวไมเนอร์เชนจ์หลังปี 2002 นั้น บล็อก D4D ขับสี่มีเห็นในสามแสนต้นๆจนถึงสามแสนปลายตามสภาพ

สำหรับช่วงล่างนั้น หลายคนบ่นว่าในยุคเดียวกันเมื่อเทียบกับรถค่ายอื่น มันจะกระด้างกว่า แต่ปัญหาช่วงล่างแข็งเนี้ยะแก้ไขง่าย หากคุณคิดจะซื้อมือสองก็ต้องกันงบปรับแต่งไว้บ้าง แค่เปลี่ยนโช๊ค ลูกยางนิดหน่อยก็นุ่มหนึบหนับได้ดั่งใจครับ ส่วนภายในเบาะนั่งแถวสอง หัวเบาะหัวหมอนมันเตี้ย ความสบายอาจน้อยไปนิดก็ต้องทำใจบ้าง แต่โดยรวมเมื่อเทียบความเอนกประสงค์กับราคาและความทนทานของชุดเกียร์ออโต้ที่ให้มา ผมถือว่าคุ้มครับ นิดหน่อยสำหรับคนต้องการเซฟเงินแต่ชอบรถ PPV แบบนี้ ลองเลือกเวอร์แรก แบบเปลี่ยนเครื่องวาง 1JZ-TE แล้วติดแก็สดูครับ ได้ทั้ทั้งแรงทั้งประหยัด เก็บตังค์ไว้สามปีแล้วขยับไปเป็นฟอร์จูนเนอร์ได้สบายๆ