ปัจจุบันน้ำมันกลายเป็นเชื้อเพลิงสำคัญโดยเฉพาะในภาคขนส่ง ประเทศไทยมีการใช้ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นจำนวนมากในรถยนต์ รถโดยสาร และเรือ ซึ่งในส่วนของเรือประมงจะมีการใช้ดีเซลเป็นจำนวนมาก
สำหรับมาตรการที่ผ่านมารัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ดังนี้
"น้ำมันเขียว" เป็นน้ำมันที่รัฐจำหน่ายให้แก่กลุ่มเรือประมงขนาดใหญ่ในเขตต่อเนื่องที่ห่างจากฝั่ง 12-24 ไมล์ทะเล โดยเป็นน้ำมันที่เติมสีเขียวและสารมาร์กเกอร์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ ถ้ามีการลักลอบนำมาขายขึ้นบก เพราะน้ำมันเหล่านี้จะได้รับสิทธิพิเศษในการยกเว้นภาษีอากร และไม่ต้องเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนต่างๆ จึงมีราคาถูกกว่าบนฝั่ง ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ชาวประมงมีน้ำมันราคาถูกไว้ใช้ในการเดินเรือทางไกล และป้องกันไม่ให้กลุ่มประมงไปเติมน้ำมันเถื่อนนอกทะเล
"น้ำมันม่วง" จะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำมันเขียว แต่เติมสีม่วงเพื่อให้ประชาชนสังเกตได้อย่างชัดเจน และป้องกันไม่ให้เข้าใจผิดและนำไปใช้กับรถยนต์เพราะเป็นน้ำมันที่ใช้กับเรือประมงเท่านั้น โดยจำหน่ายให้กับเรือประมงชายฝั่งขนาดเล็กไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล แต่จะต่างจากน้ำมันเขียวตรงที่ น้ำมันม่วง เรียกเก็บภาษีเหมือนกับน้ำมันดีเซลทั่วไป แต่มีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลบนบก 2 บาท/ลิตร
"น้ำมันเขียว" และ "น้ำมันม่วง" รัฐได้กำหนดโทษสูงสุดทั้งจำและปรับ เพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำขายเพื่อหาประโยชน์ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เป็นน้ำมันที่มีไว้สำหรับช่วยเหลือชาวประมงอย่างแท้จริง และส่งเสริมอาชีพทำกินต่อไป แต่เหนืออื่นใดในวันนี้ประเทศยังต้องผจญกับวิกฤตน้ำมันแพง ดังนั้น ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และของทุกคน รวมถึงความตั้งใจจริงเพื่อช่วยกันประหยัดน้ำมันอย่างจริงจังต่อไป