ลีสซิ่งระดมกลยุทธ์รับมือยอดขายรถใหม่ชะลอตัว พาเหรดเบนเข็มลุยสินเชื่อทะเบียนรถ "กสิกรฯ"ขยายฐานปล่อยกู้กระบะ-บิ๊กไบก์ แห่จับมือดีลเลอร์ทุกค่ายถล่มแคมเปญกระตุ้นตลาด ย้ำเลี่ยงแคมเปญดาวน์ต่ำ-คุมเข้มวงเงินปล่อยกู้เต็มมูลค่ารถ หวั่นคุณภาพหนี้ตก ฟาก "ธนชาต" อุ้มเต็นท์รถมือสอง ยืดเครดิตจาก 90 วันเป็น 150 วันต่อลมหายใจ

สถานการณ์ยอดขายตลาดรถใหม่ที่จะชะลอตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยล่าสุดบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติยอดขายรถยนต์เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 98,251 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 25.4% ขณะที่ราคารถมือสองในตลาดที่ตกลงต่อเนื่อง กลายเป็นโจทย์สำคัญที่ค่ายสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ต้องปรับกลยุทธ์การเติบโตกันชุดใหญ่

นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะขยายสินเชื่อเช่าซื้อในกลุ่มรถกระบะเพิ่มขึ้น โดยผ่อนคลายเงื่อนไขการพิจารณาบางด้าน หากดาวน์ตั้งแต่ 35% ขึ้นไปและผ่านการตรวจข้อมูลจากเครดิตบูโร ก็จะปล่อยกู้ให้อัตโนมัติ รวมถึงได้ร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์และดีลเลอร์ในโครงการปล่อยกู้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้แก่ลูกค้าข้าราชการด้วยแคมเปญดาวน์ต่ำ 10% ผ่อนยาวสุด 84 เดือน และดอกเบี้ยพิเศษ

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์ ซึ่งล่าสุดได้จับมือกับดีลเลอร์รายใหญ่ของทุกแบรนด์เพื่อรุกตลาด เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังแข่งขันไม่แรงมาก อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างดี เฉลี่ย 3-5% และเอ็นพีแอลยังต่ำ รวมถึงจะเร่งขยายตลาดสินเชื่อรถช่วยได้เพิ่มขึ้น อาศัยจุดขายด้านเงื่อนไขสินเชื่อแบบลดต้นลดดอกที่บริษัทเป็นผู้ริเริ่ม โดยให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าเดิมและลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารที่มีประวัติดีก็จะผ่อนคลายเงื่อนไขให้เป็นพิเศษอีกด้วย

"แม้เราพยายามเร่งเครื่องสินเชื่อมากขึ้น เพราะถ้าเติบโตในระดับเดียวกับครึ่งปีแรกก็อาจจะไม่ถึงเป้าหมาย 9.6 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังต้องระมัดระวังคุณภาพหนี้ด้วย ยังเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ และจะไม่เล่นเรื่องดาวน์ต่ำ ยกเว้นจะเป็นตลาดที่ความเสี่ยงต่ำจริง ๆ เช่นกลุ่มข้าราชการ ก็จะพิจารณาให้เป็นพิเศษ" นายอิสระกล่าว

ด้านนายณรงค์ ศรีจักรินทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ครึ่งปีหลังธนาคารจะหันมาเน้นปล่อยสินเชื่อทะเบียนรถยนต์มากขึ้น ซึ่งล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ มายคาร์มายแคช พร้อมเป็นสินเชื่อบัตรกดเงินสดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน โดยมีรถยนต์เป็นหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยถูกลง วงเงินปล่อยกู้เฉลี่ย 1-2 แสนบาท/คัน ซึ่งมั่นใจว่าครึ่งปีจะทำตลาดได้ดีขึ้น 

ขณะที่ตลาดรถใหม่ชะลอ ธนาคารเน้นกลยุทธ์รักษาฐานตลาด โดยจัดกิจกรรมร่วมกับดีลเลอร์รถต่าง ๆ ทุกสัปดาห์ พร้อมทำแคมเปญโปรโมชั่นต่อเนื่อง โดยเน้นของแจกของแถม เช่น ประกันภัย พื้นปูกระบะ เป็นต้น แต่จะไม่ทำแคมเปญดาวน์ต่ำ เพราะเสี่ยงเกิดปัญหาคุณภาพหนี้

"ปีนี้เราตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อค่อนข้างเยอะ เดิมคาดว่าจะเติบโต 30% หรือพอร์ตสินเชื่อสิ้นปีนี้ราว 2.2 แสนล้านบาท แต่ตอนนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งแบงก์ก็ยอมรับได้ เพราะปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจและทิศทางของตลาด เราก็พร้อมจะปรับให้สอดคล้อง" นายณรงค์กล่าว

ขณะที่นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (กรุงศรีออโต้) กล่าวว่า แผนครึ่งปีหลังจะรุกสินเชื่อเพื่อคนมีรถ "กรุงศรี คาร์ฟอร์แคช" เน้นขยายในเซ็กเมนต์ลูกค้า Gen Y 

ควบคู่กับจุดขายสินเชื่อแบบโปะ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของสินเชื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการได้ทั้งระยะสั้น-ยาว และไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อให้พอร์ตเพิ่มเป็น 5.3 หมื่นล้านบาท รักษาตำแหน่งเบอร์ 1 ในตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ

นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อในครึ่งปีหลังจะต้องพยายามคุมเรื่องการประเมินราคารถ และอัพเดตราคารถทุกเดือน เพื่อคุมวงเงินการปล่อยสินเชื่อไม่ให้เกินประมาณ 80% ของมูลค่ารถ ทั้งสินเชื่อคาร์ฟอร์แคช และสินเชื่อรถมือสอง เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่วงเงิน 100% จะอนุมัติเฉพาะบางกลุ่มที่ความเสี่ยงต่ำ เช่นลูกค้าเดิมที่มีประวัติชำระเงินดี เป็นต้น

ด้านนายธีรชาติ จิรจรัสพร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่าซื้อ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า แม้ตลาดรถใหม่จะชะลอตัว แต่ธนาคารยังต้องพยายามเข้าไปทำตลาดโดยอาศัยประสบการณ์ในตลาดเช่าซื้อที่ยาวนาน และมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่เหนียวแน่น โดยเน้นเข้าไปดีลกับพันธมิตรผู้ผลิตรถยนต์และดีลเลอร์ทุกแบรนด์หลัก เพราะเงื่อนไขสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยในตลาดคงไม่แตกต่างกันมาก

"ตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์และดีลเลอร์ก็ทำแคมเปญกันหนักอยู่แล้ว เราก็คงเข้าไปสนับสนุนบริการทางการเงินอีกชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คงต้องขยันมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และเน้นขยายสินเชื่อรถแลกเงินเพิ่มขึ้นด้วย จากที่ผ่านมาก็เติบโตได้สูงถึง 300% และยังไปต่อได้ดี" นายธีรชาติกล่าว

ขณะที่ตลาดสินเชื่อรถมือสองที่ชะลอตัวลงเช่นกัน นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์และงานขายลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ธนาคารได้เข้าไปดูแลลูกค้าที่เป็นเต็นท์รถมือสองอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการเต็นท์รถขอยืดการชำระเงินบ้างแล้ว ซึ่งธนาคารก็ได้มีการยืดระยะเวลาสินเชื่อสำหรับดีลเลอร์ (ฟอร์แพลน) จากเดิมที่ต้องจ่ายภายใน 90 วัน ก็ยืดให้เป็น 150 วัน เพื่อให้บริหารสภาพคล่องได้ดีขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้มีวงเงินเฉลี่ย 10-20 ล้านบาท/ราย

ด้านนายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ธนาคารได้จับมือกับผู้ผลิตรถยนต์และดีลเลอร์ที่เป็นแบรนด์พันธมิตรหลัก ทั้งฟอร์ด มาสด้า วอลโว่ และเชฟโรเลต ทำแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ทั้งดอกเบี้ย 0% นานสุด 4-5 ปี โดยผู้ผลิตรถยนต์เป็นผู้อุดหนุนค่าดอกเบี้ยให้ ขณะที่เงื่อนไขดาวน์ต่ำ ก็จะคุมคุณภาพลูกหนี้ด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ เข้มงวดขึ้น เช่นมีรายได้สูงกว่าค่างวด 2.5 เท่า หรือมีผู้ค้ำประกัน ทั้งอาจคิดดอกเบี้ยสูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยง

"เรายังมั่นใจว่าปีนี้สินเชื่อรถยังจะสามารถเติบโตเข้าเป้า 10-15% หลังจากครึ่งปีแรกขยายตัวกว่า 20% แม้ว่าครึ่งปีหลังจะมียอดขายรถใหม่ลดลงกว่าครึ่งปีแรก เฉลี่ยประมาณ 8 หมื่นคัน/เดือน แต่ก็เป็นสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับภาวะปกติก่อนมีโครงการรถคันแรก และเชื่อมั่นว่าในไตรมาส 4 ค่ายจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาน่าจะทำให้สถานการณ์ตลาดดีขึ้นด้วย" นายศักดิ์ชัยกล่าว