นายเจษฎา สุเมธาศร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) กล่าวว่า "สำหรับประเทศไทย ตัวเลขรถยนต์จดทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกในปี 2555 ระบุว่ามีรถที่จดทะเบียนใหม่มากกว่า 1 ล้านคัน หรือมีรถที่ใช้ถนนเพิ่มขึ้นประมาณ 2,700 คันต่อวัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 8 เมืองที่มีการขับขี่แบบเบรคเบรค เร่งเร่ง มากกว่า 28,000 ครั้งต่อปี เราจึงได้รับเลือกให้เป็นประเทศแรกของโลกในการเปิดตัวนวัตกรรมน้ำมันหล่อลื่น คาสตรอล แม็กนาเทค สต็อป-สตาร์ท ที่พัฒนาสำหรับรถที่ขับขี่ในเมืองโดยเฉพาะ พร้อมปกป้องทันทีที่สตาร์ทและทุกครั้งที่เบรคเบรค เร่งเร่ง โดยได้มีการส่งขบวนโมเลกุลอัจฉริยะ นำทีมโดยคุณปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ตัวแทนผู้ขับขี่ที่ต้องผจญกับสภาพการจราจรในเมือง ร่วมเดินสายแนะนำ และรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่เบรค และเร่งเครื่อง ณ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"
ศูนย์วิจัยคาสตรอลได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก และใช้เวลากว่าหลายพันชั่วโมง ในการทุ่มเทวิจัยและพัฒนานวัตกรรมน้ำมันหล่อลื่น คาสตรอล แม็กนาเทค สต็อป-สตาร์ท สูตรพิเศษที่เพิ่มโมเลกุลอัจฉริยะสูตรพิเศษ มีความสามารถในการยึดเกาะสมานชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ได้อย่างเหนียวแน่นขึ้น ทำหน้าที่เสมือนฟิล์มเคลือบอยู่บนเครื่องยนต์ และยังสามารถซ่อมแซมชั้นฟิล์มที่อาจหลุดหายไปทุกครั้งที่เบรคและเร่งได้อย่างทันท่วงที ให้เครื่องยนต์ได้รับการปกป้องตลอดเวลาตั้งแต่สตาร์ท ทุกครั้งที่เบรคเบรค เร่งเร่งตลอดเส้นทาง และแม้ขณะดับเครื่องยนต์
"ผู้ใช้รถจำนวนมาก ยังไม่รู้ว่าการขับขี่ที่ต้องเบรคและเร่งเครื่องตลอดเวลา มีผลทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เสี่ยงกับการสึกหรอมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่ขับในเมือง คาสตรอล แม็กนาเทค สต็อป-สตาร์ท จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับรถที่ขับขี่ในเมือง โดยเฉพาะด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในการช่วยลดการสึกหรอในช่วงเบรคเบรค เร่งเร่ง ดีกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมถึง 20% มีเศษโลหะสึกหรอหลุดออกมาน้อยกว่าน้ำมันหล่อลื่นทั่วไปถึง 35 เท่า ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ตลอดเวลา และช่วยยืดอายุการใช้งานของรถที่คุณรักอย่างมั่นใจ" นายเจษฏา กล่าวทิ้งท้าย
หมายเหตุ: คาสตรอลได้ร่วมมือกับ TomTom International BV ผู้นำระบบ GPS สำหรับรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ในการนำเสนอข้อมูลสด ทันท่วงที และแม่นยำเที่ยงตรงที่สุดในโลกแก่ผู้ขับขี่ ได้ทำการสำรวจการจราจรใน 50 เมืองใหญ่ทั่วโลก อาทิ นิวยอร์ก ซิดนีย์ ปักกิ่ง กรุงเทพฯ จาการ์ตา กัวลาลัมเปอร์ มอสโก รีโอเดจาเนโร ลอนดอน อิสตันบูล และฮ่องกง กับรถยนต์กว่า 1 ล้านคัน