จำนวนผู้เข้าชม : 248 ครั้ง
End Page
 
 
ค่ายรถมองตลาดปี 57 มั่นใจยอดเกินล้าน

อุตสาหกรรมยานยนต์ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายด้าน โดยเฉพาะผลพวงจากโครงการรถคันแรกที่ดึงกำลังซื้อไปใช้ล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2555 ส่งผลให้ยอดจำหน่ายปรับตัวลดลง สิ่งที่เกิดขึ้นค่ายรถรับได้มากน้อยแค่ไหน และมีผลต่อเนื่องถึงปีนี้อย่างไร รายการ "Business Talk" กรุงเทพธุรกิจทีวี สัมภาษณ์ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และจิรพล รุจิวิพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด

สุรีทิพย์กล่าวว่า แม้ปี 2556 ตลาดจะได้รับผลกระทบ แต่ก็ถือว่ายอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ตลาดอยู่ในภาวะปกติ คือ ปี 2553 ที่มียอดขายประมาณ 8 แสนคัน เท่านั้น และเห็นว่ากำลังซื้อของลูกค้าโดยเฉพาะในช่วงปลายปีอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอยู่ในช่วงฤดูการขาย มีงานแสดงรถยนต์งานใหญ่ อย่างมหกรรมยานยนต์ ผู้บริโภคได้รับเงินตอบแทนพิเศษหรือโบนัส ค่ายรถเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆเป็นการเพิ่มทางเลือกหลายรุ่น แคมเปญส่งเสริมการขายมีรายละเอียดที่จูงใจ ดอกเบี้ยอยู่ในอัตราต่ำ และสถาบันการเงินให้ความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อที่ดี ซึ่งทำให้ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีพบว่ามียอดขายคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของยอดขายทั้งปี

ส่วนสถานการณ์การเมือง เห็นว่าไม่กระทบนัก เห็นได้จากช่วงปลายปีกำลังซื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ดี อีกทั้งช่วงจัดงานมหกรรมยานยนต์ ซึ่งตรงกับช่วงชุมนุมก็พบว่ามีผู้ชมงานเต็มพื้นที่

"เราไม่ได้มองเรื่องของการเมืองเป็นตัวหลักว่าจะมีผลกระทบกับตลาดหรือไม่ การเมืองไม่ใช่สิ่งบ่งชี้ แต่เป็นเรื่องของจีดีพี อัตราดอกเบี้ย และการสนับสนุนของไฟแนนซ์มากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาก็จะเห็นได้ว่ายังปกติ ไฟแนนซ์ไม่ได้เพิ่มความเข้มข้นขึ้นมากนัก ไม่มีเพิ่มคนค้ำประกัน เป็นต้น"

ด้านจิรพลกล่าวว่า คนไทยปรับตัวรับการการเมืองได้ดี เห็นได้จากช่วงมีการชุมนุมพบว่าลูกค้าบางส่วนระบุว่ามาดูรถยนต์ ก่อนที่จะไปร่วมการชุมนุม

 

56 แคมเปญแรงเหตุระบายรถเก่า

ส่วนปีที่ผ่านมาซึ่งพบว่ามีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายที่ค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด ของแถม ฟรีดอกเบี้ย หรือ ผ่อนชำระระยะยาว เป็นต้น เป็นผลมาจาก การที่ในตลาดมีรถที่มีอายุหลายปีทำตลาด ซึ่งจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเพื่อระบายออกไป เนื่องจากการขายทำได้ช้า อีกทั้งผู้บริโภครอซื้อรถรุ่นใหม่แทน ดังนั้นจึงต้องใช้แคมเปญในการจูงใจ

ขณะที่รถรุ่นใหม่ๆ ไม่มีการจัดแคมเปญรุนแรงมากนัก เช่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 หรือนิสสัน เทียน่า นิสสัน จู๊ค ที่เปิดตัวช่วงปลายปีมีเพียงการแถมประกันภัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของตลาดในปัจจุบัน แต่ก็สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าที่คาดหมาย

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องระมัดระวังในเรื่องของการสร้างสมดุลระหว่าง ดีมานด์กับซัพพลาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องสต็อก และป้องกันความไม่พึงพอใจของลูกค้าหากต้องรอรับรถนาน

จิรพลกล่าวว่า การที่รถรุ่นใหม่ๆได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ค่ายรถพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปจากเดม โดยเฉพาะเรื่องของความสามารถในการใช้สอย และเทคโนโลยี รวมถึงการบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่าง ตัวอย่างเช่น นิสสัน จู๊ค ที่เป็นรถสปอร์ต ครอสโอเวอร์ ที่นิสสันไม่เคยทำตลาดมาก่อน พบว่ามียอดขายที่ดี และยังเป็นรถที่มียอดจองสูงสุดภายในงานมหกรรมยานยนต์อีกด้วย

 

หมดรถคันแรกตลาดช็อก

สุรีทิพย์กล่าวว่า ส่วนการที่ตลาดในปีที่ผ่านมาชะลอตัวลงไป โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการหมดแรงกระตุ้นจากโครงการรถคันแรกนั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับการตลาดไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม เมื่อหมดแคมเปญตลาดจะช็อกไประยะหนึ่ง แต่รถคันแรกเป็นแคมเปญที่มีส่วนลดสูง คือสูงสุด 1 แสนบาท ทำให้การช็อกของตลาดนานกว่าสินค้าอื่นๆ

นอกจากนี้ยังเห็นว่าช่วงต้นปี 2556 หลังหมดโครงการรถคันแรก 31 ธ.ค.2555 ไม่มีรถใหม่เข้ามาช่วยกระตุ้นตลาด ส่งผลให้ยอดจองรถใหม่หายไปจำนวนมาก

จิรพลกล่าวว่า ยอดจองรถคันแรกที่มีจำนวนมาก ทำให้ค่ายรถต้องเร่งการผลิตทั้งในปี 2555 และครึ่งปีแรก 2556 เพื่อเร่งการส่งมอบให้เร็วที่สุด แต่เมื่อความต้องการลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ค่ายรถต้องจัดแคมเปญเพื่อเร่งการขาย

"ปี 2556 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีของผู้บริโภคจริงๆ แคมเปญแรง และมีช่วงระยะเวลาการจัดที่ยาวนาน ทำให้ผู้บริโภคได้เปรียบมาก"

สำหรับปี 2557 เชื่อว่าตลาดรถยนต์จะมียอดขายที่สูงกว่า 1 ล้านคัน เนื่องจากมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวจำนวนมาก ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการซื้อมากขึ้น

นอกจากนี้ยังเห็นว่า องค์ประกอบอื่นๆ ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข จีดีพี หรืออัตราการว่างงาน ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะมีผลดีต่อตลาด และกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

อย่างไรก็ตามปัจจัยลบที่กังวลคือ ทิศทางราคาน้ำมัน หากปรับเพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และกำลังซื้อทั่วโลก



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 09 ม.ค. 2557 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc