จำนวนผู้เข้าชม : 336 ครั้ง
End Page
 
 
"รถมือสอง"จับมือยกระดับธุรกิจแก้วิกฤติ-รับ AEC

ตลาดรถมือสองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ การเกิดโครงการรถเล็กประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เห็นได้จากการที่หลายค่ายสามารถผลิตได้ทะลุ 1 แสนคัน ภายในปีแรก จากข้อกำหนดการส่งเสริมของภาครัฐที่ระบุให้ผลิตให้ได้ภายใน 5 ปี

การเกิดขึ้นของอีโค คาร์ ทำให้ดึงลูกค้าจากตลาดรถมือสองไปไม่น้อย และเมื่อรัฐมีโครงการส่งเสริมการมีรถคันแรกตามมา ด้วยการคืนภาษีสูงสุด 1 แสนบาท ยิ่งทำให้สถานการณ์รถมือสองแย่ลงไปอีก เพราะไม่เพียงแต่ลูกค้าถูกดึงไปเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบอีกด้านหนึ่ง นั่นคือ มีรถเข้าสู่ตลาดมือสองจำนวนมาก เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนรถคันใหม่ ทำให้ราคาลดลง

และเมื่อโครงการรถคันแรกผ่านไปได้ประมาณ 1 ปี เริ่มเกิดปัญหาการยึดรถจากลูกค้าที่ไม่สามารถผ่อนชำระ ทำให้ปริมาณรถในตลาดมือสองเพิ่มมากยิ่งขึ้น จนเกิดภาวะล้นตลาด ราคาลดลง เฉลี่ย 10-30% และที่หนักที่สุดคือลูกค้าหายไป 20-30% ขณะที่ผู้ประกอบการบางแห่งระบุว่าหายไป 50% ส่งผลต่อเนื่องให้มีการจัดแคมเปญที่รุนแรง และตัดราคากันเอง

แหล่งข่าวในวงการรถมือสองกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าบีบคั้นอย่างมาก และต้องการให้มีผู้ช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจยังกระจาย และมีทั้งผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐาน และบางส่วนที่สร้างความเสียหายให้กับวงการ

นอกจากนี้ การที่จะขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีกำลังเพียงพอจากการที่ต่างคนต่างทำธุรกิจของตนเอง

ที่ผ่านมามีความพยายามสร้างมาตรฐานในหลายๆ เช่น การจัดพิมพ์คู่มือราคากลางออกมา เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคใช้เปรียบเทียบ ก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ความพยายามดังกล่าวก็ไม่เป็นผล และเลิกไปในที่สุด

ขณะที่แนวคิดรวมตัวจัดตั้งสมาคม ก็เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ ธุรกิจมือสองเดินหน้าไปด้วยดี ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนไม่สนใจที่จะรวมตัวกัน

จนกระทั่งสถานการณ์ที่บีบคั้นล่าสุด ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มที่รวมกลุ่มกันอย่างจริงจังมากขึ้น และล่าสุดคือ การประกาศตั้ง “สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว”

นางสาวกิตติธรา รวมธรรม นายกสมาคม กล่าวว่าการจัดตั้งสมาคม เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วจากทุกภูมิภาคที่ต้องการยกระดับมาตรฐานรถยนต์ใช้แล้วให้เป็นที่ยอมรับ

ทั้งนี้สมาคมฯ เห็นว่าที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของธุรกิจถูกมองว่าขาดความเป็นมืออาชีพ ความชัดเจน และมาตรฐาน ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น

“การรวมตัวกัน ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ดังนั้นการวางรากฐานที่เป็นมาตรฐานใหม่จะช่วยรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” นางสาวกิตติธรากล่าว

นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ เลขาธิการ กล่าวว่าตลาดมือสองปัจจุบันมียอดขายหมุนเวียนประมาณ 3 ล้านคัน หรือ 3 เท่าของรถใหม่ มูลค่าตลาดรวมกว่า 5 แสนล้านบาท และมีผู้ประกอบการประมาณ 5,000 ราย แต่ที่ผ่านมาต่างคนต่างดำเนินธุรกิจของตัวเอง ไม่มีมาตรฐานเดียวกัน ทำให้เกิดปัญหา

ด้านนายไพรัตน์ สกุลศรีประเสริฐ รองนายก กล่าวว่า การรวมกัน จะทำให้มีสื่อกลางในการประสานงาน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ

“สมาคมจะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งทางภาครัฐ และเอกชนเพื่อให้ความรู้ ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ และบทวิเคราะห์ต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก ให้ยกระดับมาตรฐานของธุรกิจไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” นายไพรัตน์กล่าว



ผู้แต่ง / แหล่งที่มา : นิตยสารรถ Weekly  
 ผู้บันทึก : กองบรรณาธิการ
date : [ 09 ม.ค. 2557 ]
 


 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

 
 

ข่าวสารยานยนต์

error=select * from newtopic order by q_id desc