ลีสซิ่งกุมขมับ การเมืองระส่ำกดยอดขายรถยนต์ไตรมาสแรก หดเดือนละหมื่นคัน เหลือแค่ 7-8 หมื่นคัน/เดือน ซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง กดแรงซื้อแผ่วมาก่อนแล้ว หวังอานิสงส์มอเตอร์โชว์กระตุ้นแรงซื้อ ฟื้นยอดขายรถยนต์ดันสินเชื่อโต คาดแบงก์เข้มปล่อยกู้เพิ่มเงินดาวน์ ปิดเสี่ยงหนี้เน่า "ลีสซิ่งกสิกรไทย" เบนเข็มเล่นตลาดกระบะต่างจังหวัด ยันคุมเงินดาวน์ 20-25% สกัดเสี่ยง
นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โดยปกติในช่วง 3 เดือนแรกของแต่ละปีจะเป็นช่วงที่ยอดขายรถยนต์ขยายตัวในระดับไม่สูงมาก โดยยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 8-9 หมื่นคันต่อเดือน แต่ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ผู้ประกอบการไม่ออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ สู่ตลาด จึงมีโอกาสที่ยอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 จะปรับตัวลดลงประมาณเดือนละ 10% หรือ 1 หมื่นคันต่อเดือน
"ตั้งแต่ต้นปีเท่าที่คุยกับดีลเลอร์รถยนต์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายเงียบผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่จากการสอบถามลูกค้าก็พบว่ายังมีความต้องการซื้ออยู่ แต่หลายรายชะลอตัดสินใจซื้อ เพราะไม่มั่นใจผลกระทบจากการเมือง หรือการไม่มีรัฐบาล จะกระทบต่อเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคตของตัวเองหรือไม่ เพราะในช่วงก่อนหน้าภาระหนี้ครัวเรือนก็เร่งตัวสูงขึ้นมากแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน มี.ค.ถึงต้นเดือน เม.ย.คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ เพราะในระยะนั้นจะมีงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งต้องจับตากันว่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์เร่งตัวขึ้นได้มากน้อยเพียงใด โดยปีนี้สมาคมประเมินว่ายอดขายรถยนต์จะหดตัวลงจากปีก่อนประมาณ 10-15% มาอยู่ที่ 1.05-1.1 ล้านคัน จากระดับ 1.32 ล้านคันในปี 2556 ถือเป็นการกลับสู่ภาวะปกติหลังหมดโครงการรถคันแรก โดยจำนวนนี้มาจากการใช้บริการเช่าซื้อ 80% และอีก 20% เป็นการซื้อด้วยเงินสด
ด้านความกังวลต่อการเร่งตัวขึ้นของปริมาณหนี้เสียนั้นเชื่อว่าสถาบันการเงินทุกแห่งจะให้ความสำคัญกับคุณภาพลูกหนี้มากขึ้น เห็นจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาที่มีการขยับเงินดาวน์มาอยู่ที่ 20-25% จากเดิมที่แข่งกันทำแคมเปญดาวน์ 0-10% ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจึงไม่น่าจะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้บริโภคมากเกินไป โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยรถยนต์ป้ายแดงหากดาวน์ 20% ผ่อนระยะเวลา 4 ปี จะอยู่ที่ 2.4-2.5% ขณะที่เอ็นพีแอลทั้งระบบอยู่ที่ 3.4-3.5%
นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อยอดสินเชื่อเช่าซื้อในเดือน ก.พ.ให้ปรับตัวลดลงตามมา ทำให้มีโอกาสจะเห็นการออกแคมเปญพิเศษของดีลเลอร์รถยนต์เจ้าต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่สถาบันการเงินคงไม่แข่งขันรุนแรงมากนัก ยังเน้นลูกค้ากลุ่มที่วางเงินดาวน์ 20-25% เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากหนี้เสียพร้อมกันนี้ บริษัทยังปรับแผนออกไปให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในต่างจังหวัดมากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดประมาณ 55% และลูกค้ากรุงเทพฯ 45% ของยอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 9 หมื่นล้านบาท
"ยอดขายรถในต่างจังหวัดยังดีโดยเฉพาะรถกระบะ เพราะยอดขายรถเก๋งปีนี้อาจลำบากเนื่องจากกำลังซื้อส่วนใหญ่ได้ถูกใช้ไปแล้วจากโครงการรถยนต์คันแรกและแคมเปญที่รุนแรงในช่วงหลังปี 2556 โดยเฉพาะรถอีโคคาร์ ขณะที่ตลาดรถกระบะยังมีกำลังซื้ออยู่ เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่จะซื้อไปใช้งานประกอบธุรกิจสร้างรายได้ จึงมีความจำเป็นต้องใช้รถ" นายอัครนันท์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโต 10% หรือประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 9.9 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อรถเก๋ง 68% รถบรรทุก 25% สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 4% และสินเชื่อดีลเลอร์ 3% และยังไม่เน้นทำตลาดรถยนต์มือสอง
