Ducati มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ สัญชาติ อิตาลี ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ในปี 2014 ดูคาติ เส่งบิ๊๊กไบค์รุ่นใหม่ ดูคาติ มอนสเตอร์ รุ่นปี 2014 โดยในด้านดีไซน์ยังถือเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สวยเนี้ยบเฉียบด้วยเฟรมถักอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวรถมาแบบเครื่องเปิดโล่งหรือที่เรียกว่า Naked ให้ความรู้สึกดิบไม่น้อย พร้อมด้วยโคมไฟหน้าดวงกลมใหญ่โตขนาบข้างด้วยโช้คอัพอันโต ซึ่งการออกแบบทั้งหมดทำออกมาได้เร้าใจไม่น้อยเลย

ด้านระบบส่งกำลัง ดูคาติ มอนสเตอร์แบ่งเป็น 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่รุ่น 1200 และ รุ่น 1200 S แต่ใช้เครื่องยนต์ Testastretta 11 ขนาด 1,200 ซีซี แบบเดียวกันใช้ทั้ง 2 รุ่น โดยในรุ่น 1200 มีกำลังสูงสุด 135 แรงม้า แรงบิด 118 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 7,250 รอบต่อนาที ส่วนรุ่น 1200 S มีกำลังสูงสุด 145 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 124 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 7,250 รอบต่อนาที

ในส่วนตัวถังก็เหมือนกับรุ่น 696 และ 796 ที่ตัวถังจะมาพร้อมเฟรมถักสีแดง โดยเฟรมนี้จะติดอยู่กับเครื่องยนต์และทำหน้าที่เป็นตัวรับแรงเครียดของแชซซีไปในตัว คล้ายๆกับกรณ๊แชซซีของ Panigale ที่ติดอยู่กับเครื่องยนต์ Superquadro ทาง Ducati แจ้งว่าการออกแบบเฟรมใหม่นี้ทำให้ความแข็งแกร่งในแง่ของการทนแรงดึงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่ากว่าแต่ก่อนระยะระหว่างล้อจะเป็น 59.48 นิ้วซึ่งยาวกว่ารุ่นเก่า 2.4 นิ้ว เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่และความสะบายของการนั่งซ้อนท้าย แฮนด์นั้นจะสูงกว่าเดิม 1.6 นิ้วและเข้ามาใกล้คนขับกว่าเก่าเพื่อให้ขับได้สบายขึ้น ระดับของเบรกและคลัชก็ปรับค่าได้ด้วย ตะเกียบหน้าเป็นของ Kayaba ขนาด 43 มม แบบปรับค่าได้ โช้คเดี่ยวด้านหลังเป็นของ Sachs ที่ปรับค่าได้ทั้งสปริงพรีโหลดและค่าแด้มปิ้งรีบาวด์ ส่วนรุ่น 1200S จะมาพร้อมตะเกียบหน้าขนาด 48 มม เคลือบ Titanium Nitride และโช้คหลังจาก Ohlins.

เบรกหน้าของรุ่น 1200 จะมาพร้อมคาลิบเปอร์ Brembo โมโนบล้อคแบบสี่สูบ M4-32 และจานเบรกคู่ขนาด 320 มม ขณะที่รุ่น 1200S จะใช้คาลิบเปอร์โมโนบล้อคของ Brembo รุ่น M50 พร้อมจานคู่ขนาด 330 มม ทั้งสองรุ่นจะมีเบรก ABS ของ Bosch รุ่น 9MP ABS ที่ปรับค่าได้ 3 ระดับ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระดับ 1 จะเป็นโหมดสปอร์ทไม่มีการป้องกันล้อหลังยกสูง ระดับ 2 ระบบป้องกันล้อหลังยกสูงจะทำงาน ส่วนระดับ 3 นั้นระบบ ABS จะทำงานเต็มรูบแบบและป้องกันล้อหลังยกสูง ระบบ ABS สามารถปิดเปิดได้ มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมยาง Pirelli Diablo Rosso II ส่วนที่ใหม่โดดเด่นก็คงเป็ฯหน้าจอสีแบบ TFT ที่จะเปลี่ยนแปลงค่าที่แสดงตามโหมดการขับขี่ การขับขี่ในเมืองหน้าจอจะแสดงผลข้อมูลหลักๆเท่านั้น เช่นความเร็วรถ ความเร็วรอบ เพื่อให้มองเห็นได้ง่ายแค่เพียงเหลือบตามอง ในโหมดทัวร์ริ่งจะเห็นข้อมูลมากขึ้น และในโหมด sport จะแสดงข้อมูลที่เน้นเรื่องแสดงผลความเร็วรอบทำให้ง่ายที่จะดูรอบเครื่องยนต์แค่เพียงเหลือบตาดู