จากปัญหาสิ่งแวดล้อมอันหลากหลายของประเทศไทย ทั้งเรื่องปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า การบุกรุกพื้นที่ป่า การปล่อยของเสียจนก่อให้เกิดมลพิษ รวมถึงการที่ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การตระหนักถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เหตุนี้เอง จึงทำให้บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือกลุ่มบริษัทฮอนด้าประเทศไทย เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดโครงการโรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติขึ้น เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ยั่งยืนของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปการลงมือปฏิบัติต่อไป
"พิทักษ์ พฤทธิสาริกร" รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และประธานโครงการกล่าวว่า การดำเนินโครงการโรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปลูกจิตสำนึกเยาวชนด้านสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 นับตั้งแต่ปี 2542
"ระยะแรกกิจกรรมของโครงการจะเกี่ยวข้องกับการประกวดโครงการสิ่งแวดล้อมในระดับโรงเรียน โดยจะมอบรางวัลให้กับโรงเรียนที่มีผลงานด้านสิ่งแวดล้อม และเพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานและความยั่งยืนให้เกิดขึ้น โดยในโอกาสครบรอบ 10 ปีของโครงการ ซึ่งตรงกับการจัดงานครั้งที่ 5 จึงได้มีการยกระดับโครงการจากเดิมที่แข่งขันระหว่างโรงเรียน มาสู่การแข่งขันกับตัวเองในรูปแบบของโรงเรียนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม"
ขณะที่ "อรนุช พฤกษ์วัฒนานนท์" ผู้จัดการส่วนงานสนับสนุนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และผู้อำนวยการโครงการกล่าวเสริมว่าการแข่งขันโรงเรียนมาตรฐานสิ่งแวดล้อมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตนเอง การบูรณาการการเรียนรู้จากหลักสูตรวิชาเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างความยั่งยืนในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมของโรงเรียนและชุมชน
"โครงการโรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมฯครั้งที่ 7 ได้สานต่อแนวคิดตามรอยเท้าพ่อ...กับฮอนด้า โดยมุ่งเน้นการเพาะความคิด การปลูกจิตสำนึกที่ยั่งยืนให้แก่เยาวชนและสังคม ทางโครงการมีเกณฑ์มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ใช้ในการประเมิน โดยผ่านการรวบรวมองค์ความรู้ การระดมสมองจากผู้เชี่ยวชาญ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกณฑ์มาตรฐานสิ่งแวดล้อมฉบับนี้ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานสิ่งแวดล้อมสำหรับโรงเรียนฉบับแรกของประเทศไทย"
พร้อมกันนั้น "อรนุช" ยกตัวอย่างโรงเรียนที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานในระดับประถมศึกษาครั้งที่ 7 ว่า โรงเรียนบ้านน้ำมิน จ.พะเยา เป็นโรงเรียนต้นแบบที่มีผลงานด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนและชุมชน ตลอดจนการส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมของนักเรียนอย่างบูรณาการ
"ความโดดเด่นของโรงเรียนบ้านน้ำมินคือการปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมที่บุคลากร นักเรียน และชุมชนร่วมมือกันส่งผลให้บ้านทุกหลังในชุมชนมีความสะอาดเรียบร้อย มีการคัดแยกขยะอย่างเป็นระเบียบ ที่สำคัญ ยังมีการพัฒนาเป็นหลักสูตรโดยนำเข้าไปบูรณาการเข้ากับ 8 กลุ่มสาระความรู้ โดยเชื่อมโยงกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ สู่วิถีชีวิตประจำวันของนักเรียน เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนในการปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก่นักเรียนจากรุ่นสู่รุ่น"
นอกจากนั้น "อรนุช" ยังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า จากการดำเนินโครงการ 6 รุ่นที่ผ่านมา มีโรงเรียนที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจำนวน 8 โรงเรียน มีโรงเรียนมาตรฐานสิ่งแวดล้อมกว่า 46 โรงเรียน และมีโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนทุนดำเนินโครงการรวมแล้วกว่า 700 โรงเรียน
"เป้าหมายต่อไปของโครงการคือ การนำเอาบทเรียนจากโรงเรียนที่มีการบริหารจัดการที่ดีมาเผยแพร่ รวมถึงการสร้างภาคีเครือข่ายเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ที่สำคัญคือการนำเอาองค์ความรู้เหล่านี้ขยายเข้ามาสู่โรงเรียนต่าง ๆในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล" จนสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสังคมต่อไป