ปัจจัยลบเศรษฐกิจ-การเมืองรุมเร้าทำค่ายรถ-ลีสซิ่งหืดขึ้นคอ ยอดขายรถยนต์รวมทั้งปีไปไม่ถึงล้านคันแน่ ไตรมาสแรกสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ฮวบ 27.35% เผยมีเฉพาะ "บิ๊กไบก์" เท่านั้นที่โต "เคลีสซิ่ง" เร่งใช้กลยุทธ์เน้นคัดคุณภาพลูกค้ามากขึ้น

นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากปัจจัยลบหลายด้านทั้งเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงที่ชะลอตัว และการเมือง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างในระบบธนาคาร พาณิชย์ในไตรมาสแรก เติบโตไม่ถึง 1% จากยอดขายรถยนต์ในช่วงในช่วงเวลาดังกล่าวที่ 224,171 คัน ลดลง 45.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่

ยอดขายจำนวน 413,256 คันและคาดว่าภาพรวมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในระบบในช่วงครึ่งปีแรกจะยังชะลอตัว โดยการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้าง

อยู่ใต้แรงกดดันให้มีทิศทางชะลอตัวลงอยู่ในช่วงใกล้ 0% จากฐานของสินเชื่อในปีที่ผ่านมาที่เติบโตสูงในปีที่แล้วตามการเร่งส่งมอบรถ ยนต์ในโครงการรถคันแรก ประกอบกับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ปัญหาการเมืองยังไม่ยุติ ส่งผลให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบเชิงลบถึงความต้องการซื้อรถทั้งเพื่อการ อุปโภคและการใช้เพื่อการพาณิชย์ที่ลดลงอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ตลาดรถ ยนต์น่าจะหดตัวต่อเนื่องไปเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่จะหดตัวสูงกว่ารถประเภทอื่นจากกำลังซื้อที่ลด ลง เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ในเชิงพาณิชย์ เช่น รถกระบะ 1 ตัน และรถบรรทุกต่าง ๆ จากการลงทุนที่ชะลอตัวลง และจากปัจจัยสถานการณ์ทางการเมือง โดยตลาดยานยนต์ประเภทเดียวที่มีการเติบโตสวนทิศทางตลาดคือตลาดรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบก์ที่มีโอกาสขยายตัว โดยช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามียอดจดทะเบียนเฉลี่ยกว่า 5,000 คันต่อเดือน จากปีที่แล้วมียอดจดทะเบียนเฉลี่ย 4,000 คันต่อเดือน

สำหรับช่วงที่ ตลาดน่าจะฟื้นตัวนั้น บริษัทคาดว่าจากสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและบรรยากาศในการซื้อรถยนต์ใหม่นั้นอยู่ ในภาวะซบเซาเมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่าน ๆ มาจึงอาจจะต้องรอช่วงครึ่งปี หลังเพื่อดูสัญญาณการฟื้นตัวของตลาด ซึ่งหากสถานการณ์การเมืองเริ่มนิ่งมากขึ้น ก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยดึงตลาดให้ฟื้นตัวได้ ทำให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในช่วงไตรมาสสามและสี่ มีโอกาสจะกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น จากยอดขายรถที่อาจเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก และจากผลของฐานเปรียบเทียบกับยอดขายในช่วงไตรมาสสามและสี่ในปีที่ผ่านมาที่ มียอดขายชะลอลง ซึ่งจากสถานการณ์ตลาดโดยรวมที่มีปัจจัยเสี่ยงรอบด้านมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ทำให้คาดว่าตลาดรถยนต์โดยรวมทั้งปียังคงหดตัวสูง น่าจะมียอดขายรวมไม่เกิน 1 ล้านคัน

ด้านกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทนั้นต้องดำเนินธุรกิจ ด้วยความระมัดระวัง หันมาเน้นคุณภาพของลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 สามารถปล่อยลีสซิ่งรถยนต์และสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ได้รวม 15,336 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 27.35% แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ 8,488 ล้านบาท ลดลง 6.49% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 6,849 ล้านบาท ลดลง 43.08% ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 88,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5.39% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL อยู่ที่ 0.91%

"ปีนี้ ถือเป็นปีที่ยากทั้งค่ายรถและลีสซิ่ง จากปัญหากำลังซื้อที่หดตัว แค่เพียงรถรุ่นใหม่ ที่ออกมาอาจไม่เพียงพอผลักดันยอดขาย ทำให้การแข่งขันของค่ายรถรุนแรงขึ้น ส่วนลีสซิ่งเองก็มีโจทย์ต้องควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่อาจจะด้อยคุณภาพมาก ขึ้น"