นิสสันลั่นขอมาร์เก็ตแชร์ 2 หลัก เข็น "เอ็นพี 300 นาวาร่า" ใหม่ เบียดคู่แข่ง จ้องขึ้นเบอร์ 3 ตลาดปิกอัพ ย้ำโรงงานใหม่แห่งที่ 2 เดินตามแผน ผลิตปิกอัพป้อนในประเทศ-ส่งออกทั่วโลก เผยการเมืองชะงักไม่กระทบอีโคคาร์เฟส 2
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัทนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับแผนงานที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ ตามกรอบเปิดตัวรถยนต์ครบ 10 รุ่น (นับตั้งแต่โมเดล 2012-2016) ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่รวม 2 รุ่น และในปี 2559 อีก 2 รุ่น รถรุ่นล่าสุดที่เปิดตัว คือ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวาร่า (Nissan NP300 Navara) เป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นฐานผลิตแห่งแรกสำหรับรถรุ่นดังกล่าว ใช้เวลาสำรวจความต้องการลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ราว 6 ปี โดยใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 190 แรงม้า ระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ 7 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีตัวถังทั้งในแบบ King Cab และ Double Cab และระบบขับเคลื่อนที่มีให้เลือกทั้งแบบ 4 ล้อ และ 2 ล้อ ซึ่งจะเปิดราคาจำหน่ายในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้พร้อม ๆ กับการเปิดโรงงานแห่งใหม่ และคาดว่าจะส่งมอบได้ราวเดือนสิงหาคมนี้ ตามด้วยแผนการส่งออกไปทำตลาดทั่วโลกโดยโรงงานแห่งใหม่ของนิสสันซึ่ง
เป็นแห่งที่ 2 ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ด้วยงบฯลงทุนกว่า 11,000 ล้านบาท ซึ่งเอ็นพี 300 นาวาร่าจะเป็นรถรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ผลิตในโรงงานดังกล่าวในปัจจุบัน มีกำลังผลิตที่ 75,000 คันต่อปี มีกำลังผลิตสูงสุดถึง 150,000 คัน และแม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบปัญหาในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แต่บริษัทก็ได้เดินหน้าลงทุนและสร้างโรงงานให้แล้วเสร็จตามกำหนดที่วางไว้
สำหรับด้านยอดขายนั้น บริษัทตั้งเป้ายอดขายนาวาร่ารุ่นดังกล่าวไว้ที่ 3,000 คันต่อเดือน ซึ่งมากกว่านาวาร่าโมเดลที่ผ่านมากว่าเท่าตัว คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายให้นิสสันได้มีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดรถปิกอัพเพิ่มขึ้นเป็น 2 หลัก จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 6% ซึ่งหากมีมาร์เก็ตแชร์เป็นตัวเลข 2 หลักนั้นก็น่าจะทำให้มียอดขายเป็นอันดับ 3 ของตลาดรถปิกอัพ ที่ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายราว 300,000 กว่าคัน ด้านความคืบหน้าโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเรียกค่ายรถไปหารือหรือกำหนดทิศทางแต่อย่างใด แต่ก็เชื่อว่าจากกรอบระยะเวลาที่วางไว้ว่าให้ผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการในเฟส 2 นั้น สามารถเริ่มจำหน่ายรถยนต์ได้ตั้งแต่ปี 2559 ก็ยังมีเวลาในการเตรียมตัวอีกมาก เพราะไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในช่วงใด