การมาถึงของ Rolls-Royce Cullinan Black Badge ทำให้คอลเลคชั่น Black Badge สมบูรณ์แบบ ภายใต้ภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึม และสุขุมลุ่มลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Black Badge ด้วยราคาเริ่มต้น 37.8 ล้านบาท
นับตั้งแต่เปิดตัว Cullinan—Rolls-Royce of SUV มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มองหาประสบการณ์เพื่อเติมเต็มชีวิต และแสวงหาอิสระในการผจญภัย แต่ท่ามกลางลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีผู้แสวงหาความแตกต่าง ต้องการเปลี่ยนโฉมรูปลักษณ์อันโดดเด่นด้วยสีดำสนิท เพื่อแฝงกายเป็นส่วนหนึ่งไปกับความมืดมิดยามราตรี Cullinan สามารถตะลุยไปยังพื้นที่อันท้าทายที่สุดของโลกมาได้โดยตลอด
ด้านหน้าเป็นจุดที่อัตลักษณ์แห่ง Black Badge ได้ตั้งอยู่อย่างสง่างามคือสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ใช้วัสดุโครเมียมรมดำเคลือบผิวไฮกลอส และเป็นครั้งแรกที่ฐานของนางฟ้าก็ใช้วัสดุเดียวกัน รวมไปถึงส่วนอื่นๆ อาทิ โลโก้ ‘RR’ รอบคันที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายเส้นสีเงินบนพื้นดำ
ในส่วนของกรอบกระจังหน้า, กรอบหน้าต่าง, มือจับประตู และฝาท้าย กรอบช่องดักอากาศด้านล่าง รวมถึงท่อไอเสียถูกพ่นสีเข้ม ส่วนกระจังหน้ารถแม้จะเป็นสีดำ แต่ยังคงความเงางาม ทำให้เด่นชัดขึ้นด้วยกรอบสีดำโดยรอบเพิ่มความเด่นชัดของการเคลื่อนไหวที่บ่งบอกเป็นนัยถึงเจตคติอันทรงพลัง
เพดานที่ผลิตด้วยหนังแท้สีดำคุณภาพสูง ประกอบด้วยแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออฟติกที่ร้อยด้วยมือจำนวน 1,344 จุด สะท้อนบรรยากาศท้องฟ้ายามราตรี และมีลูกเล่นดาวตกสีขาว 8 ดวงพุ่งผ่านเพดานหลากทิศทาง รวมถึงบริเวณเพดานเหนือที่นั่งด้านหน้า สะท้อนถึงเสน่ห์ของยนตรกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับได้เป็นอย่างดี
Black Badge Cullinan มอบทางเลือกสำหรับการตกแต่งห้องโดยสารอย่างไร้ขีดจำกัด ใช้หนังแท้สีเหลืองสด Forge Yellow สามารถนำไปใช้ตามจุดต่างๆ ของห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งชมวิว (Viewing Suite) หรือบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ Recreation Module ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
กุญแจสำคัญของ Black Badge Cullinan ได้แก่สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) เป็นโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมของ Rolls-Royce ที่เปิดตัวพร้อม Phantom เจเนอเรชั่นล่าสุด จุดเด่นคือความแข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น รองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเลี้ยว 4 ล้อที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ Black Badge Cullinan มีสมรรถนะไร้เทียมทาน
เครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ 12 สูบ 6.75 ลิตร ผ่านการปรับแต่งเพิ่มกำลังจากรุ่นปกติ 29 แรงม้า รวมเป็น 592 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบไอเสียแบบใหม่ สร้างเสียงคำรามที่หนักแน่น และทรงพลัง ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะควบคุมด้วยระบบ Satellite Aided Transmission พร้อมช่วงล่างถุงลมที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) และมีการทรงตัวที่ดีในทุกสภาพเส้นทาง