ไฮไลต์ในเรซนี้อยู่ที่คลาสสูงสุดของไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (เอสบี1-เอสบี2” ซึ่งมีแชมป์ประเทศไทยและสิทธิ์ไวลด์การ์ด เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ เป็นเดิมพัน โดย “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ 3 สมัยติดต่อกันจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ได้ออกสตาร์ทจากโพลโพซิชั่นขนาบข้างด้วย “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก จีเอ็มที 94 และ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ในกริดที่ 2 และ 3

ออกสตาร์ทเรซด้วยการขยับขึ้นนำของ อนุภาพ ทว่าเพียง 4 โค้ง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ก็ทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ ขณะที่ ฐิติพงศ์ เจ้าของโพลร่วงลงไปถึงอันดับ 3 อย่างไรก็ดี ฐิติพงศ์ สามารถทวงตำแหน่งผู้นำได้สำเร็จในรอบที่ 3

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในรอบที่ 6 แชมป์เก่าต้องออกจากเรซหลังพลาดล้มไปดื้อๆ ที่โค้ง 8 จากอาการล้อหน้าสะบัด ก่อนที่ในรอบที่ 7 ของการแข่งขัน นครินทร์ อาศัยความผิดพลาดของ อภิวัฒน์ และชัยวิชิต นิสกุล จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี การลุ้นแชมป์สนามแรกต้องมาดวลกันถึงโค้งสุดท้าย เมื่อ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ที่ตามอยู่กว่า 5 รอบ อาศัยจังหวะที่ดีกว่า เสียบแซงเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 5.728 วินาทีคว้าแชมป์สนามแรกไปครองอย่างสุดมันส์ เฉือน นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์เพียง 0.183 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชัยวิชิต นิสกุลตามหลังแชมป์ 11.748 วินาที ขณะที่แชมป์ในคลาส SB2 เป็นของ ชาคริต ศรีสมัย จาก คมิกซ์ เพอร์ฟอร์มานซ์

ส่วนการแข่งขันไฮไลต์อีกรุ่นอย่าง ซูเปอร์สต็อก 1000 ซีซี (ST1, ST2.) ที่มีตั๋ว เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ เป็นเดิมพัน ก็ดวลความเร็วกันอย่างเข้มข้น โดยจบ 12 รอบสนาม แชมป์ตกเป็นของ อภิเดช บุญศรี จาก พีทีที ซูเปอร์ไบค์ นูด้า 80 ทีม ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 19 นาที 58.621 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง ชานนท์ ชุ่มใจ จาก ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที อันดับ 2 เพียง 0.535 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ สิรภพ พูลศรี จาก ยามาฮ่า ดิออน แคปิตอล ยาโมโตสปอร์ต ทีม ตามหลังแชมป์ 5.589 วินาที

ด้านการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS1,SS2) การขับเคี่ยวในกลุ่มหัวแถวเป็นการดวลของ คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม เจ้าของโพล และ สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง คู่แข่งจาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ ในกริดที่ 2 โดยทั้งคู่ไล่บี้กันอย่างหนักตลอด 12 รอบสนาม ก่อนที่จะเป็น คณาทัตใจมั่น ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 37.412 วินาที คว้าแชมป์ไปครอง เฉือน สิทธิศักดิ์อ่อนเฉวียง คู่แข่ง อันดับ 2 เพียง 0.892 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กฤตภัทร เขื่อนคำ จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 15.111 วินาที

ขณะที่แชมป์ในคลาส สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี (SP, SPJ) ตกเป็นของ จูเนียร์ ซามูเอล คอนเวนโต้ ดาวรุ่งจาก พีทีที ลูบริแคนต์ คาวาซากิ ไออาร์ซี วายเอสเอส ติดลม นก จูเนอร์ ติ๊งโน๊ต เรซซิ่ง ทีม เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 13 นาที 38.842 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง ภาสกร แสนหลวง จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ดี.ไอ.ดี. เอ็นจีเค เออห์ลินส์ อู่ช่างชวัญ เซ็นต์เชียงใหม่ เพียง 0.085 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กฤติวิทย์ สิงห์เดช จาก พิโลก เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 3.406 วินาที

ผลการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี (SS1, SS2) ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 8 ไล่แซงคู่แข่งถึง 7คัน ทะยานขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบด้วยเวลา 14 นาที 29.097 วินาที ทิ้งห่าง ธีร์ธวัช คุณภู่ อันดับ 2 จาก พีทีที ลูบริแคนต์ คาวาซากิ ไออาร์ซี วายเอสเอส ติดลม นก จูเนอร์ ติ๊งโน๊ต เรซซิ่ง ทีม ถึง 9.294 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รัฐพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็มเอ็น8 น้ำบาน โก๋ท่ามะกา ตามหลังแชมป์ 14.699 วินาที

สำหรับการแข่งขัน โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 สนามถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 5-6 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย