นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการเอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เอ็ม เอ เอ็น” (MAN) เตรียมลุยตลาดรถบรรทุกไทยเต็มสูบ พร้อมส่งไฮไลท์รถบรรทุกหัวลาก MAN รุ่น TGS6x4 แบบ 10 ล้อแบบหัวเก๋ง แบบ L และแบบ LX หรือหลังคาสูง ทั้งหมด 3 รุ่นย่อยประกอบไปด้วย 1.TGS6x4360 แรงม้า 2.TGS6x4400 แรงม้า3.TGS6x4 440 แรงม้าให้เลือกสรรตามวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยทุกคันมาพร้อมความโดดเด่นของเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง ขนาด 10,518 ซีซีขับเคลื่อนด้วยระบบลหัวฉีดแบบคอมมอนเรล พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์เทอร์โบชาร์จ ด้านระบบเกียร์เป็นแบบ 12 เกียร์เดินหน้า 2 เกียร์ ถอยหลัง ทำงานแบบกึ่งอัตโนมัติด้วยระบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแบบ TipMaticแบบSmartshifting ที่ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างแม่นยำรวดเร็วที่มาพร้อมกับระบบการตรวจบรรทุกน้ำหนัก (Load Detection) ของตัวรถที่จะช่วยทำการเลือกเกียร์ที่เหมาะสมในการออกตัวและในสถานการณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงน้ำหนักของตัวรถและน้ำหนักบรรทุก ด้านระบบเบรค MAN BrakeMaticเป็นระบบเบรคล้อแบบลมล้วนควบคุมด้วยอิเลคโทรนิคแบบดิสค์เบรคทั้งด้านหน้าและด้านหลังติดตั้งมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อล็อคอัตโนมัติ (ABS)และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (MAN EasyStart)เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบรองรับน้ำหนักของตัวรถทั้งเพลาหน้าและเพลาหลังเป็นแบบแหนบ (Parabolic Leaf Spring)พร้อมกับโครง เพื่อให้การรองรับน้ำหนักและการทรงตัวเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่การบริการหลังการขายผลิตภัณฑ์มีการรับประกันคุณภาพของตัวรถทั้งคัน 12 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง และการรับประกันระบบขับเคลื่อน 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทางพร้อมกันกับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 24 เดือนโดยไม่จำกัดระยะทางเช่นกันส่วนด้านอะไหล่มีการรับประกันคุณภาพของอะไหล่ 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง ตลอดจนมีช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของเอ็ม เอ เอ็น เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดแก่ลูกค้า
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า “เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส” (MAN Truck & Bus) เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และให้บริการขนส่งของยุโรป ด้วยขอบข่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถตู้ รถบรรทุก รถบัส ไปจนถึงเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊ส ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมวลชนและสินค้าโดยย้อนหลังไปราว 260 ปี เอ็ม เอ เอ็น ได้มีส่วนอย่างมากในการปฏิวัติโลกยุคใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากให้การสนับสนุนและร่วมมือประดิษฐ์คิดค้นเครื่องยนต์ดีเซลสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลกโดย รูดอล์ฟ ดีเซล ในปี ค.ศ.1893 ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวได้ถูกเรียกตามชื่อผู้ประดิษฐ์ว่า “เครื่องยนต์ดีเซล” และทำให้เครื่องยนต์ดีเซลได้กลายเป็นชิ้นส่วนหลักในรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ทั่วโลก
“เอ็ม เอ เอ็น” (MAN) เติบโตและก้าวเป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อย่างอย่างยั่งยืนต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ถือว่าก้าวหน้าที่สุดของโลก โดยในปี ค.ศ 1915 ได้เริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และในปี ค.ศ. 1924 ได้เปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมระบบอัดฉีดเชื้อเพลิง (direct-injection) และโครงสร้างของรถบัสที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดบนตัวถังแบบ low-frame chassis ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมุ่งมั่นและมีเป้าหมายชัดเจนจนกระทั่งในปีค.ศ. 2018 ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม TRATON SEซึ่งเป็นกลุ่มยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ภายใต้ Volkswagen Group ทำให้ปัจจุบันเอ็ม เอ เอ็น กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และให้บริการขนส่งที่ได้รับความไว้วางใจทั่วภูมิภาคยุโรป
จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้เอ็ม เอ เอ็น ตั้งเป้าหมายขยายการเติบโตไปทั่วโลกโดยเล็งเห็นถึงการเติบโตเป็นอย่างมากของวงการขนส่งเพื่อการพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทยที่พบว่าตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีช่องทางในการทำตลาดที่น่าสนใจ จึงได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพื่อขับเคลื่อนเอ็ม เอ เอ็น ก้าวสู่การเป็นแบรนด์รถบรรทุกที่เติบโตควบคู่ไปกับตลาดโลจิสติกส์ไทยด้วยการนำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพระดับโลก ตลอดจนการบริการหลังการขายที่พร้อมมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าอันเป็นตามวิสัยทัศน์“ซิมพลิฟายด์อิ้ง บิสซิเนส” (Simplifying Business)ที่มุ่งมั่นทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการอย่างง่ายที่สุดเพื่อทำให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านกลยุทธ์และแผนการดำเนินงาน ประกอบไปด้วย
1.การจัดจำหน่ายรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรปและสอดคล้องกับการใช้งานของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมได้แก่ รถหัวลาก (Truck Tractor) และรถบรรทุก (RigidTruck) โดยจุดเด่นคือมาพร้อมความประหยัดโดยเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบรองรับการวิ่งระยะทางไกล มีความแข็งแรงด้านสมรรถนะเป็นเลิศรองรับทุกการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงมีความทนทานมีคุณภาพประสิทธิภาพตลอดจนเทคโนโลยีชั้นนำอันเป็นไปตามมาตรฐานยุโรปขนานแท้ ซึ่งรถบรรทุกของเอ็ม เอ เอ็น จะได้รับการผลิตและนำเข้าทั้งหมดเป็น CBU100% โดยตรงจากประเทศเยอรมนีด้วยราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้2.การสร้างความพร้อมทางด้านการให้บริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการรับประกันสินค้า ทั้งตัวรถระบบการขับเคลื่อน ความพร้อมด้านอะไหล่ทดแทนรวมทั้งช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานจากเอ็ม เอ เอ็น ตลอดจนสัญญาบริการครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งานเพื่อสร้างความมั่นใจและทำให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินได้อย่างประสบความสำเร็จราบรื่นและ3.การขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการที่ครอบคลุมเส้นทางการใช้งานของลูกค้าทั่วประเทศเอ็ม เอ เอ็น กำลังมองหาหุ้นส่วนทางธุรกิจที่จะมาเป็นผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตไปพร้อมกันให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เพื่อตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของธุรกิจลูกค้าตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ปัจจุบันตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติเอเชียมีสัดส่วนประมาณ 95% ตามมาด้วยกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติยุโรป ประมาณ 5% ซึ่งมองถึงสัดส่วนของกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติยุโรปพบว่ายังมีช่องทางการเติบโต ทำให้เอ็ม เอ เอ็น ตั้งเป้าหมายที่ในฐานะแบรนด์รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์สัญชาติยุโรปที่มีการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดอันเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งหมดนี้ทำให้มั่นใจว่าเอ็ม เอ เอ็น จะเป็นหนึ่งในแบรนด์รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วประเทศ นายจักรพงษ์ กล่าวสรุป