ค่ายรถลุ้นตลาดรถครึ่งปีหลังฟื้น "อีซูซุ" เผยรถบรรทุกกระเตื้องก่อน "ฮอนด้า" หวังสูงยอดขายตลาดรวมน่าจะแตะ 9.5 แสน "มิตซูบิชิ" ยันไม่ปรับเป้ายอดขายส่งไทรทันใหม่ปั๊มยอด "ซูซูกิ" ชี้ปัจจัยบวกเพียบ ยอดขาย "เซเลริโอ" เกินเป้า

นายเอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลังว่า ตลาดรถยนต์ประเภทที่จะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนหลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายคือ ตลาดรถบรรทุก ที่ปัจจุบันมีการอนุมัติโครงการลงทุนต่าง ๆ ของภาครัฐ ส่งผลตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้น และจะยิ่งฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปีหน้า คาดว่าตลาดรวมในปีนี้อยู่ที่ 30,000 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 40,000 คัน โดยในช่วง 5 เดือนแรกตลาดรถบรรทุกมียอดขายรวมอยู่ที่ 10,000 คัน ส่วนอีซูซุเองตั้งเป้ามียอดขายรถบรรทุกทั้งปีที่ 15,000 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 50%

ขณะที่ตลาดรถยนต์ทั่วไปนั้น หลังจากพิจารณาสภาพตลาดและเศรษฐกิจในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา คาดว่ายอดขายตลาดรวมน่าจะต่ำกว่า 1 ล้านคัน จากเดิมที่คาดว่ายอดขายน่าจะอยู่ที่ 1 ล้านคัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 5.5 แสนคัน และรถปิกอัพ 4.5 แสนคัน ตลาดรถยนต์รวมยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการค่อย ๆ ฟื้นตัว เนื่องจากยังคงมีปัจจัยลบอยู่บ้าง อาทิราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยังไม่ปรับตัวขึ้น รวมถึงการเข้าสู่ฤดูฝนที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่น อย่างไรก็ตาม นโยบายการช่วยเหลือพยุงราคาพืชผลการเกษตรของคณะรักษาความสงบแห่งชาติก็มีผลต่อด้านความรู้สึกของเกษตรกรที่จะเป็นผลดีต่อตลาดตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3

ด้านนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนก็ส่งผลให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจเป็นบวกมากขึ้น รวมถึงตลาดรถยนต์ด้วย แต่ตลาดรถยนต์จะไม่ได้มีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างหวือหวา แต่จะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าตลาดรวมน่าจะอยู่ที่ 950,000-980,000 คัน ขณะที่บริษัทก็ได้ปรับเป้ายอดขายใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพตลาด จากเดิม 160,000 คัน เป็น 135,000 คัน ซึ่งยอดขายของทั้งตลาดรวมและของบริษัทที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากยอดขายของรถยนต์หลายเซ็กเมนต์ที่หดตัวลงในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่เมื่อตลาดเริ่มฟื้นตัวนั้น กลุ่มรถปิกอัพน่าจะมียอดขายที่เติบโตเร็วกว่ารถยนต์นั่ง

เช่นเดียวกับนายซะฮิโก อูเอกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคาดการณ์สถานการณ์ตลาดได้ยาก เนื่องจากแม้สภาพตลาดจะมีบรรยากาศที่ดีขึ้น หลายฝ่ายคาดว่าจีดีพีในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโต 1.5-2.5% ที่ส่งผลบวกต่อตลาดรถยนต์อย่างแน่นอน ทำให้กำลังซื้อเริ่มฟื้น แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ากำลังซื้อจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าใด
ซึ่งแนวทางกระตุ้นตลาดของบริษัทที่สำคัญในช่วงครึ่งปีหลังคือ การเตรียมเปิดตัวรถปิกอัพ ไทรทัน ใหม่ รวมถึงการขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าเก่า ทำให้บริษัทยังคงยืนยันเป้ายอดขายเดิมที่ 101,500 คัน (นับตามปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2558) แต่ก็อยู่ในระหว่างการพิจารณาสภาพตลาดต่อไปว่าจะมีการปรับเป้ายอดขายในอนาคตหรือไม่

นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าทิศทางตลาดรถยนต์ที่บรรยากาศดีขึ้นจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เริ่มชัดเจน แต่ก็ยังมีประเด็นที่เป็นอุปสรรคคือ สถาบันการเงินที่มีความเข้มงวด
ในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ หลังจากช่วง 1-2 ปีก่อนหน้านี้ที่มีโครงการรถคันแรก และมีส่วนที่ทำให้เกิดหนี้เสียในระบบ จึงทำให้จากนี้ไฟแนนซ์ให้ความเข้มข้นในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ทำให้แม้ปัจจุบันยังมีจำนวนคนที่เข้าโชว์รูมและจองรถอยู่ แต่ก็ต้องมีอุปสรรคการอนุมัติเงินกู้ ทำให้ในปีนี้ตลาดรถยนต์จึงยังน่าจะมียอดขายที่ 900,000 คัน

ด้านนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดว่า หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจน ส่งผลให้เดือนมิถุนายนที่ผ่านมายอดขายรถยนต์เริ่มกระเตื้องขึ้น ลูกค้ามีความเชื่อมั่นจากสภาพเศรษฐกิจ เกษตรกรได้รับเงินจากโครงการรับจำนำ การขับเคลื่อนโครงการลงทุนต่าง ๆ ของภาครัฐ ทิศทางการเติบโตของจีดีพี ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ จึงเชื่อว่าตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งยอดขายของตลาดรวมที่ประเมินว่าอยู่ที่ 900,000 คันนั้นก็ถือเป็นตัวเลขที่รับได้ เนื่องจากหากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาไม่มีโครงการรถคันแรกมากระตุ้น ตัวเลขยอดขายตลาดรถยนต์ก็น่าจะอยู่ในระดับนี้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทก็ได้มีการปรับเป้ายอดขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จากเดิมตั้งเป้ายอดขายที่ 50,000 คัน ลดลงเหลือ 40,000 คัน ซึ่งรุ่นเซเลริโอที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดนั้นก็ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มียอดการทดลองขับจากบุคคลทั่วไปกว่า 15,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 25,000 ราย แต่ในขณะที่ยอดจองนั้นอยู่ที่ 1,500 คัน ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่เดือนละ 1,000 คัน

นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาสด้าก็ได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายที่เหมาะสมกับสภาพตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในงาน Fast Auto Show Thailand 2014 ก็จัดโปรโมชั่นสำหรับมาสด้า 2 คือ จองวันนี้รับเงินสดทันที 5,000 บาท พร้อมรับบัตรเติมน้ำมันฟรี เดือนละ 2,000 บาท นานสูงสุด 2 ปี หรือ 24 เดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยต่ำสุด 0.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 2 ปี และรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 รับฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี ขับฟรีอีก 90 วัน และรถยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 รับฟรีประกันภัยชั้น 1

เช่นเดียวกับนายธนบดี กุลทล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ตลาดรถยนต์รวมจะหดตัวลง แต่คาดว่ายอดขายรถยนต์รวมในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน จากสัญญาณต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ในปีนี้ถือว่าผลการดำเนินงานของบริษัทน่าพึงพอใจ จากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น จนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 4.62% เป็นผลมาจากยอดขายรถปิกอัพรุ่นฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มียอดขายกว่า 2,000 คันต่อเดือน และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอกับความต้องการ สามารถส่งมอบรถได้ทันที จากเดิมที่มีแบ็กออร์เดอร์นานหลายเดือน

ทำให้ปัจจุบันเรนเจอร์มีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดรถปิกอัพที่ 6.5% และบางช่วงมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 7% ล่าสุดบริษัทได้จัดแคมเปญ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นไวลด์แทรค DBL 2.2 ลิตร ไฮไรเดอร์ เกียร์อัตโนมัติ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง รับรถได้ทันที รุ่น XLT 2.2 ลิตร ไฮไรเดอร์ เกียร์อัตโนมัติ ดอกเบี้ย 0.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และรุ่น 2.5 ลิตร XL (เบนซิน) ราคาพิเศษ 499,000 บาท และในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะได้เห็นตลาดรถปิกอัพที่คึกคักจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ซึ่งถือเป็นสีสันของตลาดปิกอัพ